ILM มั่นใจยอดขายยอดขายสาขาเดิมปีนี้ยังเติบโตเป็นเลขหลักเดียว แม้โควิดกระทบยอดขายในไตรมาส 1/64 หันเร่งลดต้นทุน - คุมค่าใช้จ่าย พร้อมชะลอการลงทุนเปิดสาขาใหม่

  นางกนกวรรณรัตน์ ศรีมณีศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบัญชีและการเงิน บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในช่วงไตรมาส 2/64 หากเทียบกับช่วงเดียวปีก่อน มั่นใจเติบโตขึ้นในระดับตัวเลข 2 หลัก เนื่องจากยังสามารถเปิดให้บริการได้ และ ยังมีลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในสาขาได้ตามปกติ

  ทั้งนี้จากมีการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 รุนแรงมากกว่าในระลอกที่ 2 ทำให้การเข้ามาซื้อสินค้าในสาขาชะลอตัวไปค่อนข้างมาก ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/64 ยอดขายสาขาเดิมของบริษัทติดลบ 7.9% และ ในไตรมาส 2/64 ผลกระทบยังต้องติดตามในช่วงเดือน มิ.ย. 64 ที่ภาครัฐทยอยเร่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนตามแผนหรือไม่

  "ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 ยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ค่อนข้างมากอยู่ แต่ไม่หนักเท่ากับปีที่แล้วที่เราต้องปิดสาขาไปเลย แต่ขอดูเดือนมิ.ย.นี้ก่อนว่า หากเริ่มทยอยฉีดวัคซีนแล้ว ภาพของตลาดจะกลับมาหรือไม่"นางกนกวรรณรัตน์ กล่าว

  บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตยอดขายสาขาเดิม ในปีนี้ตัวเลขหลักเดียว แม้ว่าในไตรมาส 1/64 จะยังติดลบอยู่ แต่บริษัทมองว่า หากการฉีดวัคซีนโควิด-19 เร่งตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. 64 ที่จะถึงนี้จะช่วยให้สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ในปัจจุบัน โดยหากสามารถควบคุมได้ และ ทำให้คนเริ่มมีความมั่นใจในการออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งคาดว่า ภาพการฟื้นตัวขึ้นจะเริ่มเห็นในช่วงครึ่งปีหลังนี้

  นอกจากนี้ บริษัทยังคงมีการควบคุมต้นทุน และ ค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเร่งงระบายสต็อกสินค้าเพื่อทำให้บริษัทมีต้นทุนในการเก็บรักษา และ มีรายได้เข้ามาในบริษัท รวมถึงการจัดพื้นที่ หรือโปรโมชั่นสำหรับสินค้าที่ลูกค้ามีความต้องการ และ ให้มาร์จิ้นดีในบางช่วงเวลา

  อย่างไรก็ตาม การแพร่พระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทตัดสินใจชะลอแผนการลงทุนก่อสร้างสาขาใหม่ย่านลาดกระบังออกไปชั่วคราว เพื่อรอดูสถานการณ์ และ ภาวะการจับจ่ายใช้สอยว่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังหรือไม่ หากสถานการณ์ต่าง ๆ ในช่วงครึ่งปีหลังดีขึ้นจากครึ่งปีแรก บริษัทจะกลับมาพิจารณาเริ่มลงทุนก่อสร้างสาขาใหม่ที่จะลงทุนในปีนี้อีกครั้งในช่วงปลายปี 64 แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นก็มีโอกาสที่เลื่อนการลงทุนไปเป็นปีหน้าแทน