"บมจ. ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ หรือ TRV" หนึ่งในผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่น ๆ ที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำ กำลังจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 2 ธ.ค. นี้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย จึงได้สรุปข้อมูลที่สำคัญจากแบบไฟลิ่ง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน
1. TRV ชิ้นส่วนยางขึ้นรูป ส่วนประกอบเล็กๆ แต่สำคัญ
บริษัท ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRV ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนยางขึ้นรูป กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในยานยนต์ ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในเครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนยางขึ้นรูปอื่นๆ นำโดยการบริหารของ “ธีรวุฒิ นวมงคลชัยกิจ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
TRV มีจุดแข็งและกลยุทธ์ ในความเชี่ยวชาญตลอดระยะเวลามากกว่า 20 ปี ได้รับความไว้วางใจในการผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูป ซึ่งเป็นส่วนประกอบของรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น เป็นหนึ่งฐานลูกค้าหลักของบริษัท
2. แผนการระดมทุน
TRV เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 54,565,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
3. เคาะราคาไอพีโอ 2.30 บาท คิดเป็น P/E ที่ 17.69 เท่า
ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 2.30 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 17.69 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2564)
TRV ขายหุ้นไอพีโอ : จำนวน 54.56 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.98% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO จำนวน 210,000,000 หุ้น
มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) : 0.50 บาท/หุ้น
ปัจจุบัน มีทุนจดทะเบียน : 105,000,000 บาท
เข้าซื้อขายใน : ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 2 ธันวาคม 2564
หมวดธุรกิจ : สินค้าอุตสาหกรรม
ที่ปรึกษาทางการเงิน : บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด
ผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย : บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
สัดส่วนการเสนอขายหุ้น
บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จำนวน 52.93 ล้านหุ้น หรือ 97%
ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 300,000 หุ้น หรือ 0.55%
กรรมการ,ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ จำนวน 1.3 ล้านหุ้น หรือ 2.45%

4. มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินของบริษัทฯ หลังหักภาษีและเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด
5. วัตถุประสงค์การระดมทุน
บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ ประมาณ 125.50 ล้านบาท ไปใช้เพื่อขยายธุรกิจ เพิ่มกำลังการผลิต รองรับความต้องการอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวในอนาคต และรองรับการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น

6. เงินระดมทุนเพิ่มศักยภาพการผลิต
โดยแผนการระดมทุนครั้งนี้จะนำเงินไปใช้ลงทุนซื้อเครื่องจักรจำนวน 15 เครื่อง ซึ่งจะสนับสนุนให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 94 ล้านชิ้น จากกำลังการผลิต ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 จำนวน 98.78 ล้านชิ้นต่อปี (หากคิดจำนวนเต็มปี) คาดกำลังการผลิตจะเพิ่มเป็นประมาณ 192.78 ล้านชิ้นต่อปีในปี 2568
7. อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 43.80% (งวด 9 เดือน ปี 64)
ผลประกอบการช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561 – 2563) บริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2561 – 2563 อยู่ที่ 146.40 ล้านบาท 168.55 ล้านบาท และ 159.65 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิ 23.59 ล้านบาท 25.27 ล้านบาท และ 21.20 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในปี 2563 แม้ลูกค้าของ TRV จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ยังคงความสามารถในการบริหารจัดการที่ดีได้
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2564 มีรายได้รวม 134.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.34 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 114.37 ล้านบาท มีกำไรสุทธิเท่ากับ 22.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.80% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 15.32 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 16.53 % และ 13.42 % ตามลำดับ
งบแสดงฐานะการเงิน สิ้นกันยายน 64 ดังนี้
สินทรัพย์รวม : 268.43 ลบ.
หนี้สินรวม : 73.10 ลบ.
ส่วนของผู้ถือหุ้น : 195.33 ลบ.
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) : 0.37 เท่า
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) :10.95%
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) :15.93%
8. โอกาส
- ความเชี่ยวชาญของผู้บริหารกว่า 20 ปี
- ด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าชั้นนำของตลาด
- เงินระดมทุน เพิ่มศักยภาพการผลิต และมุ่งเน้นลดของเสียที่เกิดขึ้นได้
- ฐานลูกค้าของ TRV คือกลุ่มแบรนด์ชั้นนำของอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยกลยุทธ์จะรักษาฐานลูกค้าเดิม และหลังระดมทุนเพิ่มโอกาสขยายฐานลูกค้าใหม่
- อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยยังได้รับการสนับสนุนการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า สร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทาน จนทำให้ปัจจุบันไทยเป็นศูนย์การผลิตและการส่งออกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ TRV ก็พร้อมเดินหน้าเติบโตไปพร้อมอุตสาหกรรมที่ขยายตัว
- หลังเข้าจดทะเบียน จะเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัท
9. ผู้ถือหุ้นใหญ่
ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TRV คือ กลุ่มครอบครัวนวมงคลชัยกิจ โดยสัดส่วนก่อน IPO 84.15% หลัง IPO 62.29%
โดยสัดส่วนหุ้นของ “ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร” ที่ไม่ติด Silent Period : จำนวน 39,935,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 19.02 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้
อย่างไรก็ดี TRV วางกลยุทธ์ "มุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ พร้อมสร้างผลประกอบการที่ดีในระยะยาว การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อสนับสนุนให้ TRV มีศักยภาพและความพร้อมสูงในการเติบโตรองรับความต้องการของลูกค้า และความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม”

*************************************