efinancethai

IPO Corner

9 ข้อน่ารู้ TATG ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตแม่พิมพ์และชิ้นส่วนยานยนต์

9 ข้อน่ารู้ TATG ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตแม่พิมพ์และชิ้นส่วนยานยนต์

 

บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) หรือ “TATG” หุ้นน้องใหม่ IPO คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมแม่พิมพ์และชิ้นส่วนยานยนต์มานานกว่า 30 ปี นำโดยการบริหารของ “ดร.พยุง ศักดาสาวิตร” ประธานกรรมการบริหาร มีความเชี่ยวชาญตั้งแต่ต้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่หลากหลาย  และมีศักยภาพในการผลิตและการแข่งขัน ทำให้ TATG เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ยืนหยัดสร้างผลงานได้ดี แม้ภายใต้อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา  


สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาบริษัทที่กำลังมีสตอรี่การเติบโตเข้ามาสนับสนุน TATG ก็เป็นอีกหนึ่งในเช็คลิสต์หุ้นเพอร์ฟอร์มแมนซ์ดี ที่กำลังจะกระโดดรับภาพรวมตลาดรถยนต์ที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวในช่วงหลังจากนี้ .. 

 

 

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย จึงได้สรุปข้อมูล เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน

1. TATG ครบวงจรในฐานะผู้ผลิตแม่พิมพ์และชิ้นส่วนยานยนต์

TATG เป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมออกแบบและผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ (Tooling) ครอบคลุมถึงการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์โลหะ (Dies) อุปกรณ์จับยึดเพื่อการตรวจสอบ (Checking Fixtures) อุปกรณ์จับยึดเพื่อการประกอบ (Assembly Jigs) และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ (Press Parts) สำหรับจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปทั่วโลก 


โครงสร้างการบริหารงานของกลุ่มบริษัท ประกอบด้วย บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) เป็นสำนักงานใหญ่ และอีก 3 บริษัทย่อย ได้แก่ 1. บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ (ปทุมธานี) จำกัด หรือ TATP, 2. บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ (ชลบุรี) จำกัด หรือ TATC และ 3. บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ (อีสเทิร์น) จำกัด หรือ TATE ซึ่งล้วนตั้งอยู่ในแนวยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมรถยนต์

 

 

2. สามทศวรรษที่เติบโต และจุดเปลี่ยนหลังเข้ามาตลาดทุน กับความยั่งยืน

“ดร.พยุง ศักดาสาวิตร” ประธานกรรมการบริหาร และในฐานะผู้ก่อตั้ง TATG มีประสบการณ์ในธุรกิจยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ จุดเริ่มต้น ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาในปี 2531 ร่วมกับ “นายคาวุธ หฤทัย” และ “นายบัณฑูร เหล่าสินชัย” ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจการผลิตเครื่องมือ (Tooling) ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และแม่พิมพ์โลหะที่มีศักยภาพทางธุรกิจและแนวโน้มการเติบโตอย่างยั่งยืน  

  • ทศวรรษแรก ของ TATG เป็นช่วงของการบุกเบิกธุรกิจ ดร.พยุง มองว่า หัวใจของการเติบโตมาจากการสร้างบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้ ความสามารถ และมุ่งเน้นการพัฒนาคน ให้ร่วมออกแบบและผลิตเครื่องมืออย่างมีคุณภาพ ทำให้ TATG เป็นที่ยอมรับของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 
  • ทศวรรษที่สอง เป็นช่วงขยายการเติบโต ทั้งการขยายกำลังการผลิต การขยายโรงงาน และการต่อยอดธุรกิจ ผลิตอุปกรณ์จับยึดและตรวจสอบ จากนั้น ได้เริ่มการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนโลหะเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ สร้างชื่อเสียงและการยอมรับลูกค้า  
  • เข้าสู่ทศวรรษที่สาม TATG พร้อมสร้าง S-Curve ใหม่ เดินหน้าเข้ามาระดมทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เตรียมพร้อมสร้างการเติบโตไปพร้อมกับความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์  ไม่ว่าจะเป็นรถเครื่องยนต์สันดาป รถยนต์ไฮบริด และการมาของรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น ผู้ที่เตรียมพร้อม จะสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้

 

 

3. TATG ต้นน้ำของอุตสาหกรรมการผลิตรถ ต่อยอดมาจนถึงปลายน้ำ

TATG ให้บริการครอบคลุมแบบ One Stop Service ตั้งแต่ต้นนำ จนถึงปลายน้ำของอุตสาหกรรม และมีความต้องการอย่างต่อเนื่องจากผู้ผลิต เนื่องจากการผลิตรถยนต์ต้องเริ่มต้นจากการผลิตโดยใช้เครื่องมือ ถ้าไม่มีแม่พิมพ์โลหะก็ทำบอดี้รถยนต์ไม่ได้ ถ้าไม่มีอุปกรณ์จับยึด ก็ประกอบรถยนต์ไม่ได้ สำหรับอุปกรณ์ตรวจสอบ ก็จำเป็นต้องตรวจสอบเพื่อให้ได้คุณภาพ 


โดย TATG เป็นบริษัทของคนไทย และนับเป็นผู้นำอันดับต้นๆ ของประเทศ ที่เชี่ยวชาญในการผลิตเครื่องมือและแม่พิมพ์มาก่อน จากนั้น เราก็ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิต ต่อยอดมายังการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทในเครือ ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม  

 

 

4. แผนการระดมทุนขายไอพีโอ 100 ล้านหุ้น เคาะราคา 1.25 บาท/หุ้น P/E ที่ 5.2 เท่า

  • TATG เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 100,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ 
  • เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม 
  • ที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด 
  • ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด 
  • ผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน คือ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด  
  • TATG กำหนดราคาเสนอขาย IPO หุ้นละ 1.25 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ภายหลังการเสนอขายหุ้น (Fully Diluted) เท่ากับ 5.2 เท่า 

 

 

5. เงินระดมทุนใช้ติดปีกกำลังการผลิต เพิ่มโอกาส

เนื่องจากแม่พิมพ์เป็นต้นน้ำของอุตสาหกรรมยานยนต์ ทำให้บริษัทเห็นโอกาสจากออเดอร์ที่จะเข้ามาในอนาคต การเข้าตลาดฯ ในครั้งนี้ ช่วยสร้างความพร้อมในการส่งมอบและบริการลูกค้าได้อย่างมั่นใจ เพิ่มกำลังการผลิตแม่พิมพ์ ยกระดับการผลิตชิ้นส่วน  และเป็นโอกาสเพิ่มยอดขายในอนาคต ซึ่งจะสอดคล้องกับเป้าหมายการผลิตของค่ายรถยนต์ด้วย นอกจากนี้ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาสำหรับงานด้านการออกแบบและผลิตเครื่องมือกล พร้อมสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 

โดยบริษัทฯ จะจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 115.8 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) 
•    นำไปใช้ลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติมในกลุ่มบริษัทฯ เพื่อให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ ปรับปรุงประสิทธิภาพและควบคุมการผลิตให้ดีขึ้น 
•    ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯและบริษัทย่อย 
•    ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมให้กับสถาบันการเงิน 

 

6. จุดเด่นการลงทุน

  • TATG คร่ำหวอดในอุตสหากรรมกว่า 30 ปี ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยผลักดันให้บริษัทฯ เติบโต
  • เครื่องจักรมีความทันสมัย เทียบเท่ามาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น
  • โครงสร้างธุรกิจมีความแข็งแกร่ง สามารถให้บริการลูกค้าครอบคลุมแบบ One Stop Service 
  • TATG ครบวงจร จุดเด่นจากอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ถือเป็นผู้ผลิตต้นน้ำ (Upstream) ที่สามารถดำเนินธุรกิจตั้งแต่การออกแบบแม่พิมพ์โลหะและเครื่องมือได้เอง ด้วยต้นทุนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ จึงสร้างความได้เปรียบและความสามารถแข่งขัน 
  • มีพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมและฐานลูกค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถกระบะ ทำให้สามารถกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจได้ดี
  • บริษัทมีการวิจัยและพัฒนาไปพร้อมความก้าวหน้าของรถ EV ทำให้ TATG สามารถขึ้นรูปชิ้นส่วนรถไฮบริด และอีวี เตรียมพร้อมรับโอกาสในอนาคต
  • ตลาดรถยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีในช่วงหลังจากนี้

 

 

7. ผลประกอบการฟื้นตัวเด่น แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศชะลอตัว

ในปีนี้ ภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง แต่ตลาดส่งออกรถกระบะหลังจากสถานการณ์ปลดล็อกโควิดมีการเติบโตต่อเนื่อง จึงช่วยลดผลกระทบจากตลาดในประเทศที่ชะลอตัวไปได้ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลประกอบการของ TATG สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างน่าสนใจ อย่างไรก็ดีภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดี ลูกค้าของกลุ่มบริษัทฯ ทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ ยังได้วางแผนและเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และแม่พิมพ์โลหะ ซึ่งรวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน จึงมองว่า TATG มีความพร้อมรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต และสามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวได้

โดย ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,340.11 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 45.87 ล้านบาท ในขณะที่งวดปี 2566 บริษัทมีรายได้รวมและกำไรสุทธิเท่ากับ 3,002.91 ล้านบาท และ 47.86 ล้านบาท  

 

 

 


 

8. โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ก่อตั้งธุรกิจมากับมือ

กลุ่มศักดาสาวิตร กลุ่มหฤทัย กลุ่มเหล่าสินชัย เป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ พร้อมสร้างการเติบโต และตอบแทนผู้ถือหุ้น โดยมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

 

 

9. ฝากถึงนักลงทุน

“ดร.พยุง ศักดาสาวิตร” ประธานกรรมการบริหาร ฝากึงนักลงทุน "ถ้าจะทำให้บริษัทยั่งยืนได้ การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เป็นอีกหมุดหมายสำคัญที่ TATG ได้วางแผนไว้ และเตรียมพร้อมมาอย่างดี จากพื้นฐาน ดร.พยุง เป็นวิศวกร จึงมีหลักในการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานทั้งในการผลิตและการเงิน ทำให้แผนการ IPO ในครั้งนี้ ทำได้อย่างลุล่วง หลังจากนี้ พร้อมเดินหน้านำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน พัฒนาเครื่องมือเครื่องจักรให้มีความทันสมัย ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่ง และมีความยั่งยืน .. ตามชื่อบริษัท Thai Auto คือเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือและแม่พิมพ์ของคนไทยที่ได้รับการยอมรับในเวทีโลก"

 

 

แบบสอบถามความพึงพอใจ






ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ



RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh