บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ให้บริการทางการแพทย์ 3 แห่ง ในจังหวัดปทุมธานี กำลังจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 6 ก.ค.นี้ (คาดการณ์)
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย จึงได้สรุปข้อมูลที่สำคัญจากแบบไฟลิ่ง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน
1.ประกอบธุรกิจ โรงพยาบาลเอกชน
บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG ประกอบธุรกิจ โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งให้บริการทางการแพทย์จำนวน 3 แห่ง ในจังหวัดปทุมธานี ได้แก่ 1.โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2.โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 และ 3.โรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต ซึ่งเรียกรวมว่า “กลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต” ปัจจุบันมีจำนวนเตียงจดทะเบียนรวมทั้งหมด 270 เตียง
2.ขายไอพีโอจำนวน 54 ล้านหุ้น คิดเป็น 18%
เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 54,000,000 หุ้น คิดเป็น 18% ของจํานวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO
3.เคาะราคาไอพีโอ 21 บาท คิดเป็น P/E ที่ 26.58 เท่า
ราคาเสนอขายหุ้นละ 21.00 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) เท่ากับ 26.58 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่ 1 เม.ย.65 ถึง 31 มี.ค.66 ซึ่งเท่ากับ 238.24 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (Fully Diluted) จำนวน 300 ล้านหุ้น ได้กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.79 บาท
เทียบ P/E บจ.ธุรกิจใกล้เคียงกัน ค่าเฉลี่ย (24.37)
BH (51.41),PR9 (28.65), EKH (14.47),CHG (10.92),VIBHA (31.10),THG (30.97),BCH (12.61),RAM (28.29),RJH (7.91),NTV (27.38)
ขายหุ้นไอพีโอ : จำนวน 54 ล้านหุ้น คิดเป็น 18%
มีจำนวนหุ้นหลังเสนอขายไอพีโออยู่ที่ 300 ล้านหุ้น
เข้าจดทะเบียนด้วยวิธี : เกณฑ์กำไรสุทธิ (Profit Test)
มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) : 1.00 บาท/หุ้น
มูลค่าทางบัญชี : 4.15 บาท/หุ้น สิ้นไตรมาส 1/66
เข้าซื้อขายใน : ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 6 ก.ค.นี้ (คาดการณ์)
หมวดธุรกิจ : บริการ / การแพทย์
ที่ปรึกษาทางการเงิน : บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด
ผู้จัดการการจัดจำหน่าย : บล.กรุงศรี,บล.คิงส์ฟอร์ด
ผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย : บล.ดาโอ (ประเทศไทย),บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) และบล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)
สัดส่วนการเสนอขายหุ้น
บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 40.50 ล้านหุ้น 75%
ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 8.1 ล้านหุ้น 15%
กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานบริษัทฯ 5.4 ล้านหุ้น 10%
4.มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
บริษัทฯ มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ในแต่ละปี ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและทุนสำรองอื่น
5.นำเงินขยายธุรกิจโรงพยาบาล
รายได้และกำไรของ PHG ตั้งแต่ปี 64-65 และไตรมาส 1/66 เป็นดังนี้
|
ปี 64 |
ปี 65 |
ไตรมาส 1/66 |
รายได้รวม (ลบ.) |
1,985.06 |
2,053.31 |
489.04 |
กำไรสุทธิ (ลบ.) |
317.48 |
293.10 |
44.55 |
อัตรากำไรสุทธิ (%) |
15.99 |
14.27 |
9.11
|
6.มี D/E อยู่ที่ 0.61 เท่า
PHG มีระดับ D/E สิ้นไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 0.61 เท่า
งบแสดงฐานะการเงิน สิ้นไตรมาส 1/66 ดังนี้
สินทรัพย์รวม : 1,645.02 ลบ.
หนี้สินรวม : 624.97 ลบ.
ส่วนของผู้ถือหุ้น : 1,020.05 ลบ.
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) : 0.61 เท่า
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) : 17.86%
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) : 10.90%
7.หลังไอพีโอ กลุ่มครอบครัวตระกูลช่างและครอบครัวแย้มสอาด ยังถือหุ้นใหญ่ 62.78%
หลังจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอแล้ว กลุ่มครอบครัวตระกูลช่างและครอบครัวแย้มสอาด ยังคงถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 62.78% โดยมีสัดส่วนถือหุ้นหลังไอพีโอดังนี้