efinancethai

IPO Corner

9 ข้อน่ารู้ "พีซแอนด์ลีฟวิ่ง (PEACE)" ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ

9 ข้อน่ารู้

บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PEACE ประกอบธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ กำลังจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 10 ก.พ.นี้


สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย จึงได้สรุปข้อมูลที่สำคัญจากแบบไฟลิ่ง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน
  
1.ประกอบธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย

บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PEACE ประกอบธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย ในพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล
 

ปัจจุบันมี 5 แบรนด์หลัก ได้แก่ Cher,Cordiz,The Glamor,Cherene และ CHEREA VICINITY ครอบคลุมลูกค้าครบทุกกลุ่ม มีทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม
 

PEACE ก่อตั้งมากว่า 30 ปี เริ่มต้นจากพัฒนารีสอร์ทเพื่อขาย จ.กาญจนบุรี  โดยปัจจุบันพัฒนาบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 22 โครงการ ปัจจุบันมี 7 โครงการ อยู่ระหว่างขาย มูลค่าคงเหลือขายที่ 2,267 ล้านบาท และ 3 โครงการในอนาคต มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดตัวโครงการในปี 65-66 ส่งผลให้ PEACE มีทั้ง Backlog บ้านที่พร้อมขาย และโครงการในอนาคต รวมเกือบ 6 พันล้านบาท
 

2.ขายไอพีโอจำนวน 84 ล้านหุ้น คิดเป็น 20%
           

เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 84,000,000 หุ้น คิดเป็น 20% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO

 

3.เคาะราคาไอพีโอ 3.98 บาท คิดเป็น P/E ที่ เท่ากับ 8.47 เท่า

ราคาเสนอขายหุ้นละ 3.98 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 8.47 เท่า คำนวณจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 ต.ค.63 ถึง 30 ก.ย.64) ซึ่งเท่ากับ 198.16 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ หลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 420 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.47 บาทต่อหุ้น

เทียบ P/E Ratio บจ.ที่ประกอบธุรกิจเน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย ในช่วง 12 เดือน (27 ม.ค.64 ถึง 26 ม.ค.65) ดังนี้

บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) มี P/E Ratio ที่ 5.74 เท่า
บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ (LALIN) มี P/E Ratio ที่ 6.42 เท่า
บมจ.ปริญสิริ (PRIN) มี P/E Ratio ที่ 9.59 เท่า
บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) มี P/E Ratio ที่ 11.44 เท่า
บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) มี P/E Ratio ที่ 6.71 เท่า
บมจ.ศุภาลัย (SPALI) มี P/E Ratio ที่ 8.49 เท่า
บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) มี P/E Ratio ที่ 12.22 เท่า

ขายหุ้นไอพีโอ : จำนวน 84 ล้านหุ้น คิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
มีจำนวนหุ้นหลังเสนอขายไอพีโออยู่ที่ 420 ล้านหุ้น
เข้าจดทะเบียนด้วยวิธี : เกณฑ์กำไรสุทธิ (Profit Test)
มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) : 1.00 บาท/หุ้น
มูลค่าทางบัญชี : 4.48 บาท/หุ้น สิ้น ก.ย.64
เข้าซื้อขายใน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 10 ก.พ.นี้
หมวดธุรกิจ : พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย
ที่ปรึกษาทางการเงิน : บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย : บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย),บล. เอเซีย พลัส, บล. ทิสโก้ และบล.เคทีบีเอสที

สัดส่วนการเสนอขายหุ้น

บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 63,001,500 หุ้น 75%
ผู้มีอุปการคุณ 7,790,000 หุ้น 9.27%
พนักงาน กรรมการ และผู้บริหารของบริษัท 13,208,500 หุ้น 15.73%


4.มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
 
บริษัทฯ มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ในแต่ละปี ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและทุนสำรองอื่น

5.นำเงินลงทุนซื้อที่ดินพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์

บริษัท มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ ประมาณ 314.02 ล้านบาท ภายหลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหลักทรัพย์ ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้


 

6.อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 18.62%  (งวด 9 เดือน ปี 64)
           
รายได้และกำไรของ PEACE ตั้งแต่ปี 62-63 และงวด  9 เดือน ปี 64 เป็นดังนี้

  ปี 62 ปี 63 9 เดือน  ปี 64
รายได้ (ลบ. 429.77 866.88 809.57
กำไรสุทธิ (ลบ.)  31.51   133.71 150.75
อัตรากำไรสุทธิ (%) 7.33  15.42 18.62

 

7.มี D/E อยู่ที่ 0.21 เท่า

PEACE มีระดับ D/E สิ้น ก.ย.64 อยู่ที่ 0.21 ท่า


งบแสดงฐานะการเงิน สิ้น ก.ย.64 ดังนี้

สินทรัพย์รวม : 1,818.82 ลบ.
หนี้สินรวม :  314.46 ลบ.
ส่วนของผู้ถือหุ้น : 1,504.36 ลบ.
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) : 0.21 เท่า
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) : 10.86%
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) : 13.87%


8.หลังไอพีโอ กลุ่มครอบครัวศิริโสภณา ยังถือหุ้นใหญ่ 39.46%

หลังจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอแล้ว กลุ่มครอบครัวศิริโสภณา ยังคงสัดส่วนถือหุ้นใหญ่ 39.46% กลุ่มครอบครัวเตชะไกรศรี ถือ 4.48% โดยมีสัดส่วนถือหุ้นหลังไอพีโอดังนี้ 

9.จำนวนหุ้นของ “ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร” ที่ไม่ติด Silent Period เท่ากับ 11,510,500 หุ้น คิดเป็น 2.74%

สัดส่วนหุ้นของ “ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร” ที่ไม่ติด silent period : จำนวน 11,510,500 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.74 ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้







ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ



RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh