บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO ผลิต นำเข้าและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศรถยนต์ทดแทน กำลังจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 22 มี.ค.นี้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย จึงได้สรุปข้อมูลที่สำคัญจากแบบไฟลิ่ง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน
1.ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศรถยนต์ทดแทน
ประกอบธุรกิจ ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศรถยนต์ทดแทนให้แก่ลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ โดยการส่งออกผลิตภัณฑ์ครอบคลุมถึงทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย
ก่อตั้งมาแล้วกว่า 30 ปี เป็น 1 ในผู้บุกเบิกการผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ของไทย และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อะไหล่แอร์รถยนต์แบบครบวงจร ทั้ง คอยล์ร้อน และคอยล์เย็น สำหรับรถที่มียอดจำหน่ายปานกลางถึงสูง ทั้งรถญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกัน รวมมากถึง 2,600 รุ่น
มีโรงงานผลิต 3 แห่ง ตั้งอยู่ในจ.สมุทรสาคร และศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร
บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 และได้จำหน่ายสินค้าภายในประเทศ และ ส่งออกไปทวีปอเมริกาเหนือ ยุโโรป อเมริกาใต้ เอเชียและออสเตรเลีย
2.ขายไอพีโอ 260 ล้านหุ้น คิดเป็น 26%
เสนอขายหุ้นทั้งหมดจำนวนไม่เกิน 260,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 26 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้
3.เคาะราคาไอพีโอ 1.40 บาท คิดเป็น P/E ที่ 18.42 เท่า
กำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่ 1.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Ratio : P/E) เท่ากับ 18.42 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.63 ซึ่งมีกำไรสุทธิรวม 76.86 ล้านบาท
และคำนวณจากจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังเสนอขายต่อประชาชนในครั้งนี้ 260,000,000 หุ้น (Fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.076 บาทต่อหุ้น
เทียบ P/E Ratio ของบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันเฉลี่ยที่ 28.58 เท่า
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่ประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกันกับธุรกิจของบริษัทฯ จำนวน 4 บริษัท
บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) มี P/E เฉลี่ย 16.83 เท่า
บมจ.ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ (TRU) มี P/E เฉลี่ย 21.39 เท่า
บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) มี P/E เฉลี่ย 10.65 เท่า
บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) มี P/E เฉลี่ย 65.44 เท่า
เป็น P/E เฉลี่ย 6 เดือนย้อนหลัง คำนวณจากค่าเฉลี่ยของอัตราส่วน P/E ตั้งแต่ 1 ก.ย.63 ถึง 28 ก.พ.64
ขายหุ้นไอพีโอ : ทั้งหมดไม่เกิน 260,000,000 หุ้น คิดเป็น 26% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
มีจำนวนหุ้นหลังเสนอขายไอพีโออยู่ที่ 1,000 ล้านหุ้น
เข้าจดทะเบียนด้วยวิธี : เกณฑ์กำไรสุทธิ (Profit Test)
มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) : 0.50 บาท/หุ้น
มูลค่าทางบัญชี : 0.47 บาท/หุ้น (คำนวณ สิ้นปี 63)
เข้าซื้อขายใน : ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 22 มี.ค.64
หมวดธุรกิจ : สินค้าอุตสาหกรรม
ที่ปรึกษาทางการเงิน : บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน)
ผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย :บล.คิงส์ฟอร์ด,บล.เคทีบีเอสที,บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย),บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
สัดส่วนการเสนอขายหุ้น
1.ประชาชน 195,000,000 หุ้น 19.50%
2.ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ 39,000,000 หุ้น 3.90%
3.กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ 26,000,000 หุ้น 2.60%
4.มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
บริษัทฯ มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ในแต่ละปี ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและทุนสำรองอื่น
5.นำเงินระดมทุนชำระคืนเงินกู้-ผุดคลังสินค้า
บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้หลังหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์เป็นจำนวนเงินสุทธิประมาณ 347.65 ล้านบาท ไปใช้ดังต่อไปนี้

6.อัตรากำไรสุทธิอยู่ 11.26% (สิ้นปี 63)
รายได้เกือบทั้งหมดเป็นรายได้จากการขาย
รายได้และกำไรสุทธิของ PACO ตั้งแต่ปี 60 - 63 เป็นดังนี้
|
ปี 60 |
ปี 61 |
ปี 62 |
ปี 63 |
รายได้(ลบ.) |
804 |
664 |
694 |
682 |
กำไรสุทธิ(ลบ.) |
42.57 |
29.02 |
30.67 |
76.86 |
อัตรากำไรสุทธิ(%) |
5.29 |
4.37 |
4.42 |
11.26 |
7.มี D/E อยู่ที่ 1.19 เท่า
PACO มีระดับ D/E สิ้นปี 63 อยู่ที่ 1.19 เท่า
งบแสดงฐานะการเงิน ณ สิ้นปี 63 ดังนี้
สินทรัพย์รวม : 1,025.71 ลบ.
หนี้สินรวม : 556.83 ลบ.
ส่วนของผู้ถือหุ้น : 468.87 ลบ.
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) : 1.19 เท่า
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) : 7.75%
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) :14.16%
8.หลังไอพีโอ กลุ่มคุณสมชาย และครอบครัว ยังถือหุ้นใหญ่ 44.40%
หลังจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอแล้ว กลุ่มคุณสมชาย และครอบครัว ยังคงสัดส่วนถือหุ้นใหญ่ 44.40% โดยมีสัดส่วนถือหุ้นหลังไอพีโอดังนี้

9.สัดส่วนหุ้นของ “ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร” ที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 3.63 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.63%
หุ้นที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 3,632,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.63 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้