กว่า 40 ปีบนเส้นทางธุรกิจ ทำให้ "บมจ. นิวทรีชั่น เอสซี หรือ NTSC" ไม่ใช่หุ้นน้องใหม่ธรรมดา แต่เป็นหุ้นเก๋าวงการตัวจริงเสียงจริงในอุตสาหกรรมอาหาร Food & Feed Ingredients ผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยอย่างมีคุณค่า โชว์ศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาด้วยผู้เชี่ยวชาญและทีมงานมืออาชีพ จับเทรนด์ Future Food เติบโตไปพร้อมกับเทรนด์อาหารคนและสัตว์ของโลกแบบยั่งยืน
จากรุ่นสู่รุ่น วันนี้ NTSC นำโดยการบริหารของ “ดร.พัชร์ เอกปัญญาสกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดินหน้านำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ในหมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร โดยใช้ชื่อย่อ “NTSC”
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย จึงได้สรุปข้อมูล เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน
1. NTSC ผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อย ด้วยประสบการณ์กว่า 4 ทศวรรษ
บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด (มหาชน) หรือ NTSC เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจวัตถุเจือปนอาหารและเครื่องปรุงต่างๆ สำหรับคนและสัตว์ ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างนวัตกรรมอาหารอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชั้นนำที่หลากหลาย ทั้งในเรื่องคุณภาพสินค้าและความคุ้มค่าของราคา โดยลูกค้าของกลุ่มบริษัทส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตอาหาร อาหารแปรรูป เครื่องปรุงรส อาหารเสริม และเครื่องดื่ม ซึ่งลูกค้ามีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและส่งออก รวมทั้ง ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ได้แก่ ร้านอาหารซึ่งมีหลายสาขากระจายอยู่ในหลายพื้นที่ของประเทศ และลูกค้าทั่วไป ด้วยวิสัยทัศน์ ผู้สร้างคุณค่าแก่อุตสาหกรรมอาหาร ยา สมุนไพร เครื่องสำอาง และอาหารสัตว์
โดยลูกค้ารายใหญ่สุดของบริษัท 20 ราย คิดเป็นสัดส่วนของยอดขายราว 34% ขณะที่ลูกค้ารายใหญ่สุดมีสัดส่วนประมาณ 4% ของยอดขาย ทำให้กลุ่มบริษัทไม่มีความเสี่ยงที่ต้องพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่เพียงรายเดียวมากจนเกินไป ส่งให้ในช่วงที่ผ่านมา NTSC มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมั่นคง และความสามารถในการทำกำไรที่ดี
2. จุดเด่น NTSC หุ้นสาย Food Tech
NTSC ซึ่งนับเป็นหุ้นสาย Food Tech ที่มีความเชี่ยวชาญในการนำเข้า ผลิต และจำหน่ายวัตถุดิบ , สารปรุงแต่ง, วัตถุเจือปนอาหาร, วัตถุแต่งกลิ่นรส, สารเสริมอาหารและเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์กว่า 1,000 SKUมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่เป็นจุดแข็งในการสร้างคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ หลากหลายกว่า 1,000 SKU และมีเอกลักษณ์ ทำให้บริษัทฯ เป็นที่ยอมรับ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในอุตสาหกรรมอาหารคน และต่อยอดมายังอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง ที่มีแนวโน้มการเติบโตในระดับสูง
3. กำหนดราคา IPO หุ้นละ 26.25 บาท P/E ประมาณ 22 เท่า
NTSC เสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 25,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
- กำหนดราคา IPO ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 26.25 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ประมาณ 22 เท่า
- ได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
พร้อมแต่งตั้ง ผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน คือ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
ขณะที่ บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำรวม 5 แห่ง ที่จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ให้มูลค่าพื้นฐานของ NTSC ปี 2566 เฉลี่ยที่ 32.7 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ
4. เงินระดมทุนรองรับอาหารคน-อาหารสัตว์ ดีมานด์พุ่ง
มั่นใจว่าเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 628.2 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) เตรียมนำไปใช้สำหรับลงทุนโครงการในอนาคต ประกอบด้วย โครงการผลิตสารกระตุ้นความน่ากินในสัตว์เลี้ยง (Palatability Enhancer Project) และโครงการลงทุนเครื่องจักรสำหรับการผลิตสินค้า OEM และสินค้าประเภท Food preparation ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มีการเติบโตในระดับสูง รวมทั้ง นำเงินไปใช้ชำระหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจ Food & Feed Ingredients ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกยุคสมัย พร้อมที่จะต่อยอดสู่การเป็นผู้ผลิตอาหารแห่งอนาคต (Future Food) เติบโตไปพร้อมกับเทรนด์อาหารของโลก ขณะที่ ภาพรวมตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นดาวรุ่ง มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ โดยประเทศไทยส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงเป็น Top5 ของโลก
5. ผลการดำเนินงาน แนวโน้มกำไรปรับตัวสูงขึ้น
ในด้านผลการดำเนินงานของ NTSC มีการเติบโตของรายได้ที่ต่อเนื่องและมั่นคง ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562 - 2564) มีรายได้จากการขาย 852.3 ล้านบาท 997.1 ล้านบาท และ 1,037.9 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 92.7 ล้านบาท 90.6 ล้านบาท และ 98.8 ล้านบาท ตามลำดับ จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารคนและอาหารสัตว์
ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 796.4 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการขยายตัวของวัตถุเจือปนในอาหารสัตว์ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 36.8% เนื่องจากในปี 2565 กลุ่มบริษัทมุ่งเน้นทำการตลาดในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงและสัตว์เศรษฐกิจมากขึ้น และมีกำไรสุทธิ 62.8ล้านบาท
โดยมีโครงสร้างรายได้ของกลุ่มบริษัทประกอบด้วย รายได้จากการนำเข้า ผลิตและจัดจำหน่ายวัตถุดิบ สารปรุงแต่ง และวัตถุเจือปนในอาหารคน คิดเป็นสัดส่วนหลัก ราว 90% ส่วนรายได้จากวัตถุดิบ สารปรุงแต่ง และวัตถุเจือปนในอาหารสัตว์ มีการเติบโตขึ้นมาก และสัดส่วนรายได้ประมาณ 10%
มองในระยะยาว ภาพรวมอัตรากำไรจะเติบโตจากการมุ่งเน้นขยายตลาดที่มีแนวโน้มความสามารถในการทำกำไรที่ดี การประหยัดเนื่องจากขนาด (Economies of Scale) และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ลูกค้าของกลุ่มบริษัท ที่เดินหน้าขยายตลาดรับภาพรวมเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวหลังยุคโควิด ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าของ NTSC เป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารคนและอาหารสัตว์เลี้ยง รวมทั้ง โอกาสขยายไปยังกลุ่มลูกค้า ODM (รับจ้างผลิตโดย NTSC ร่วมกันคิดค้นสูตรการผลิตให้แก่ลูกค้า) และ OEM (รับจ้างผลิตภายใต้สูตรการผลิตของลูกค้า) มากขึ้น
6. โอกาสจากภาพรวมอุตสาหกรรมอาหาร เป็นปัจจัยพื้นฐานของผู้บริโภค
NTSC อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจส่วนน้อยที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงวิกฤตการณ์การระบาดของ COVID-19 สะท้อนความมั่นคงในแง่ของผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในอนาคต ขณะที่ ภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เติบโตตามแนวโน้มจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ออกมาตอบโจทย์โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป อาทิ อาหารที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุ หรืออาหารที่เน้นด้านสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้อาหารประเภทต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ หรือตอบสนองความต้องการส่วนตัวบางอย่าง เช่น อาหารเพื่อลดความเครียด มีแนวโน้มเติบโตขึ้นด้วย ดังนั้นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มจึงเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า ทำให้ธุรกิจสารปรุงแต่ง วัตถุดิบ และวัตถุเจือปนในอาหารคนเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญที่จะนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ดังกล่าว ส่งผลบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของ NTSC ในอนาคต และทำให้ธุรกิจสารปรุงแต่ง วัตถุดิบ และวัตถุเจือปนในอาหารคน ถูก Disrupt ได้ยาก
ขณะที่ มูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโต โดยเฉพาะมุ่งเน้นอาหารกลุ่ม Premium ส่งผลบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในอนาคต
7. ผู้ถือหุ้นใหญ่ คือผู้ก่อตั้งธุรกิจนี้มากว่า 40 ปี
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ NTSC ถือหุ้นใหญ่โดย
- นายสุรเดช เอกปัญญาสกุล สัดส่วนก่อน IPO 40% และหลัง IPO 30%
- นางชุตินันท์ สนั่นเสียง สัดส่วนก่อน IPO 40% และหลัง IPO 30%
- ดร.พัชร์ เอกปัญญาสกุล สัดส่วนก่อน IPO 20% และหลัง IPO 15%
8. ฝากถึงนักลงทุน
การเข้าตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทฯ สู่ความยั่งยืน หลังจากสร้างความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมอาหารมาแล้วกว่า 4 ทศวรรษ วันนี้ NTSC พร้อมที่จะยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานสากล และสามารถสร้าง New S-Curve ทางธุรกิจได้ อยากให้นักลงทุนทุกท่านติดตาม และจะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังอย่างแน่นอน
**********************************************