บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป (เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว) นำเข้าและจำหน่ายเนื้อสัตว์และผักแช่แข็ง กำลังจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 19 พ.ค.นี้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย จึงได้สรุปข้อมูลที่สำคัญจากแบบไฟลิ่ง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน
1.ประกอบธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป (เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว) และนำเข้า และจำหน่ายเนื้อสัตว์และผักแช่แข็ง
บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป เช่น แซนด์วิชอบร้อน เบเกอรี ขนมขบเคี้ยว วางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อ 7-11 และยังเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเนื้อสัตว์ ผักแช่แข็ง
ในปี 61-63 NSL ขายสินค้าให้ CPALL คิดเป็นสัดส่วน 99.3%,96.6%และ 94.3% ของรายได้จากการขายทั้งหมด
โดยหลักประกอบด้วยรายได้จากการขาย กลุ่มเบเกอรี่และรองท้อง มากกว่า 90% ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ NSL ผลิตและขายให้แก่ 7-11 โดยรายได้ในกลุ่มนี้นั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
2.ขายไอพีโอจำนวน 75 ล้านหุ้น คิดเป็น 25%
เสนอขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 75,000,000 หุ้น คิดเป็น 25% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO
3.เคาะราคาไอพีโอ 12 บาท คิดเป็น P/E ที่ 17.9 เท่า
ราคาหุ้นเสนอขายหุ้นละ 12 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 17.9 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิปี 63 ที่ 151.4 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ที่ 225 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.67 บาท
ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ราคาหุ้นละ 12 บาท คิดเป็น P/E Ratio ที่ 24 เท่า คำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากกำไรสุทธิปี 63 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (Fully Diluted) ที่ 300 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น เท่ากับ 0.50 บาท
เทียบ P/E หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ช่วง 30-120 วันทำการ (ถึง 27 เม.ย.64) มีค่าเฉลี่ยของ P/E อยู่ระหว่าง 27.4 – 32.4 เท่า
ขายหุ้นไอพีโอ : จำนวน 75 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
มีจำนวนหุ้นหลังเสนอขายไอพีโออยู่ที่ 300 ล้านหุ้น
เข้าจดทะเบียนด้วยวิธี : เกณฑ์กำไรสุทธิ (Profit Test)
มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) : 1.00 บาท/หุ้น
มูลค่าทางบัญชี : 2.02 บาท/หุ้น ณ ธ.ค.63
เข้าซื้อขายใน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 19 พ.ค.64
หมวดธุรกิจ : กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร / อาหารและเครื่องดื่ม
ที่ปรึกษาทางการเงิน : บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด
ผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย : บล.เอเซีย พลัส,บล.ฟินันเซีย ไซรัส,บล.โกลเบล็ก,บล.กรุงไทย ซีมิโก้,บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย)
สัดส่วนการเสนอขายหุ้น
บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 53 ล้านหุ้น
ผู้ลงทุนสถาบัน 7 ล้านหุ้น
ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ 10 ล้านหุ้น
พนักงานบริษัทฯ 5 ล้านหุ้น
4.มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
บริษัทฯ มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ในแต่ละปี ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและทุนสำรองอื่น
5.นำเงินระดมทุนขยายโรงงานรองรับการเติบโต

6.อัตรากำไรสุทธิอยู่ 5.2% (สิ้นธ.ค.63)
รายได้และกำไรของ NSL ตั้งแต่ปี 61-63 เป็นดังนี้
|
ปี 61 |
ปี 62 |
ปี 63 |
รายได้(ลบ.) |
3,137.1 |
3,373.5 |
2,927.6 |
กำไรสุทธิ(ลบ.) |
79.2 |
156.3 |
151.4 |
อัตรากำไรสุทธิ(%) |
2.5 |
4.6 |
5.2 |
7.มี D/E อยู่ที่ 2.5 เท่า
NSL มีระดับ D/E ณ สิ้นปี 63 อยู่ที่ 2.5 เท่า
งบแสดงฐานะการเงิน ณ สิ้นธ.ค.63 ดังนี้
สินทรัพย์รวม : 1,574.6 ลบ.
หนี้สินรวม : 1,119.8 ลบ.
ส่วนของผู้ถือหุ้น : 454.8 ลบ.
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) : 2.5 เท่า
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) : 9.4%
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) : 32.6%
8.หลังไอพีโอ นายสมชาย อัศวปิยานนท์ ยังถือหุ้นใหญ่ 74.99%
หลังจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอแล้ว นายสมชาย อัศวปิยานนท์ ยังคงสัดส่วนถือหุ้นใหญ่ 74.99% โดยมีสัดส่วนถือหุ้นหลังไอพีโอดังนี้

9.สัดส่วนหุ้นของ “ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร” ที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 59.99 ล้านหุ้น คิดเป็น 20%
จำนวน 59,999,800 ล้านหุ้น คิดเป็น 20.0 % ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของ NSL ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้