บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ ประกอบธุรกิจ คลินิกเวชกรรมด้านผิวหนัง ความงาม ศัลยกรรมตกแต่ง และการดูแลป้องกันฟื้นฟูสุขภาพ กำลังจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 7 พ.ย.นี้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย จึงได้สรุปข้อมูลที่สำคัญจากแบบไฟลิ่ง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน
1.ประกอบธุรกิจ สุขภาพและความงามครบวงจร
บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ ประกอบธุรกิจ คลินิกเวชกรรมด้านผิวหนัง ความงาม ศัลยกรรมตกแต่งและการดูแลป้องกันฟื้นฟูสุขภาพ
เป็นผู้นำธุรกิจด้านความงามครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “เดอะคลีนิกค์” โดยให้บริการภายใต้คลินิกเวชกรรมและศูนย์ศัลยกรรมของบริษัท ดังนี้
1.แผนกผิวหนังและความงาม
2.แผนกป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ
3.แผนกศัลยกรรมตกแต่ง
4.การจำหน่ายเวชสำอาง
2.ขายไอพีโอจำนวน 60 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.27%
เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 60,000,000 หุ้น คิดเป็น 27.27% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO
3.เคาะราคาไอพีโอ 24.50 บาท บาท คิดเป็น P/E ที่ 23.12 เท่า
ราคาเสนอขายหุ้นละ 24.50 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) เท่ากับ 23.12 เท่า เทียบกับกำไรสุทธิที่ 1.06 บาทต่อหุ้น คำนวณจากผลประกอบการในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ก.ค.64–มิ.ย.65) ที่มีกำไรสุทธิ 169.60 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 160 ล้านหุ้น
และคิดเป็น P/E Ratio เท่ากับ 31.78 เท่า เทียบกำไรสุทธิที่ 0.77 บาทต่อหุ้น หากพิจารณากำไรสุทธิต่อหุ้นที่คำนวณจากจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 220 ล้านหุ้น
เทียบ P/E Ratio ของบริษัทอื่นในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการทางการแพทย์ ดังนี้
AHC (7.04),BCH (5.02),BDMS (41.31),BH (65.39),CHG (6.82),CMR (18.84),EKH (14.05),KDH (22.99),LPH (7.19),M-CHAI (7.1),NEW (10.84),NTV (31.26),PR9 (28.46),PRINC (24.03),RAM (14.62),RJH (5.99) RPH (5.47),SKR (24.13),THG (24.35),VIBHA (18.83),VIH (3.46),WPH (6.13)
ขายหุ้นไอพีโอ : จำนวน 60 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.27%
มีจำนวนหุ้นหลังเสนอขายไอพีโออยู่ที่ 220 ล้านหุ้น
เข้าจดทะเบียนด้วยวิธี : เกณฑ์กำไรสุทธิ (Profit Test)
มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) : 0.50 บาท/หุ้น
มูลค่าทางบัญชี : 1.47 บาท/หุ้น สิ้นมิ.ย.65
เข้าซื้อขายใน : ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 7 พ.ย.นี้
หมวดธุรกิจ : บริการ
ที่ปรึกษาทางการเงิน : บล.ดาโอ
ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย : บล.ดาโอ,บล.เอเซีย พลัส,บล.ฟินันเซีย ไซรัส,บล.คิงส์ฟอร์ด,บล.เคจีไอ (ประเทศไทย),บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) และบล.พาย
สัดส่วนการเสนอขายหุ้น
กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 6 ล้านหุ้น 10%
ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 9 ล้านหุ้น 15%
นักลงทุนสถาบันและประชาชนของบริษัท 45 ล้านหุ้น 75%
4.มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
บริษัทฯ มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ในแต่ละปี ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและทุนสำรองอื่น
5.นำเงินขยายสาขาคลินิกเวชกรรม

6.อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 13.97% งวด 6 เดือน ปี 65
รายได้และกำไรของ KLINIQ ตั้งแต่ปี 63-64 และ 6 เดือน ปี 65 เป็นดังนี้
|
ปี 63 |
ปี 64 |
6 เดือน ปี 65 |
รายได้รวม (ลบ.) |
1,009.20 |
952.14 |
717.23 |
กำไรสุทธิ (ลบ.) |
144.69 |
129.25 |
100.22 |
อัตรากำไรสุทธิ (%) |
14.34 |
13.57 |
13.97 |
7.มี D/E อยู่ที่ 3.58 เท่า
KLINIQ มีระดับ D/E สิ้นมิ.ย.65 อยู่ที่ 3.58 เท่า
งบแสดงฐานะการเงิน สิ้น มิ.ย.65 ดังนี้
สินทรัพย์รวม :1,079.35 ลบ.
หนี้สินรวม : 843.51 ลบ.
ส่วนของผู้ถือหุ้น :1,079.35 ลบ.
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) : 3.58 เท่า
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) : 17.80%
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) : 85.51%
8.หลังไอพีโอ รวมกลุ่มทองวัฒน์ ยังถือหุ้นใหญ่ 52.35%
หลังจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอแล้ว รวมกลุ่มทองวัฒน์ ยังคงถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 52.35% โดยมีสัดส่วนถือหุ้นหลังไอพีโอดังนี้

สัดส่วนหุ้นของ “ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร” ที่ไม่ติด Silent Period : จำนวน 1,838,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.06 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้