กระทรวงพาณิชย์ เผยส่งออกของไทยปี 63 อยู่ที่ 231,468.44 ล้านดอลลาร์ หรือติดลบ 6.01% โดยสาเหตุที่การส่งออกยังคงติดลบนั้น เป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก และการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งในและต่างประเทศด้วย
โดยตลาดส่งออกสินค้าที่สำคัญ ประกอบด้วย ตลาดหลักที่ประกอบด้วย สหรัฐ ที่มีมูลค่าการส่งออก 34,343 ล้านดอลลาร์ ญี่ปุ่น มูลค่าการส่งออก 22,876 ล้านดอลลาร์ และสหภาพยุโรป มีมูลค่าการส่งออก 18,529 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ตลาดที่มีศักยภาพสูง มีมูลค่าการส่งออกรวม 112,343 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วย อาเซียน จีน เอเชียใต้ อินเดีย และตลาดศักยภาพระดับรอง ประกอบด้วย ทวีปออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และกลุ่ม CIS
และในวันนี้ทีมข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ได้รวบรวม 10 อันดับสินค้าส่งออกสูงสุดของปี 63 ดังนี้
1. ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มีมูลค่า 21,266.84 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 22.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
2.เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ มีมูลค่าการส่งออก 18,668.85 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 2.33%
3.อัญมณี และเครื่องประดับ มีมูลค่าการส่งออก 18,207.33 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 16.04%
4.ผลิตภัณฑ์ยาง มีมูลค่าการส่งออก 12,113.82 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 7.83%
5.เม็ดพลาสติก มีมูลค่าการส่งออก 7,971.54 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 13.09%
6.แผงวงจรไฟฟ้า มีมูลค่าการส่งออก 7,155.14 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 5.72%
7.เคมีภัณฑ์ มีมูลค่าการส่งออก 6,735.69 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 11.22%
8.เครื่องจักรกล และส่วนประกอบเครื่องจักรกล มีมูลค่าการส่งออก 6,528 ล้านดอลลาร์ติดลบ 10.98%
9.น้ำมันสำเร็จรูป มีมูลค่าการส่งออก 5,354.92 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 26.88%
10.เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ มีมูลค่าการส่งออก 5,251.81 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 4.45%
สำหรับปี 64 กระทรวงพาณิชย์คาดว่ามูลค่าการส่งออกจะเติบโต 4% ซึ่งคาดว่าจะได้แรงหนุนจากการกระจายวัควีน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ช่วยให้ประเทศคู่ค้ามีกำลังซื้อมากขึ้น ประกอบกับนโยบายการค้าของสหรัฐ ที่คาดว่าจะกลับมายึดถือตามกติกาของ WTO จะช่วยให้การแก้ปัญหาความขัดแย้งจากสงครามการค้ามีความเป็นรูปธรรม
แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีปัจจัยลบที่ต้องติดตาม เช่นกัน ทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันสำหรับสินค้าที่มีความอ่อนไหวต่อราคา รวมถึงอุปสรรคด้านการขนส่งสินค้าจากการขาดแคลนตู้สินค้า ทำให้ผู้ส่งออกมีภาระต้นทุนด้านโลจิสติกส์เพิ่มขึ้นด้วย
ดังนั้นปีนี้ กระทรวงพาณิชย์จะต้องเร่งจัดกิจจกรมเจรจาธุรกิจ การหาตลาดส่งออกใหม่ๆที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตได้ เพราะในปีนี้เชื่อว่า การผลักดันการส่งออกให้ขยายตัวได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน