ในเวลานี้คงไม่มีอะไรร้อนแรงไปกว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทองคำ หรือ น้ำมัน ที่ทะยานขึ้นทำนิวไฮแบบรายวัน ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากปัญหาความขัดแย้งของรัสเซีย - ยูเครน จนลุกลามไปสู่การระงับการนำเข้าพลังงาน และโลหะ สำคัญๆ จากรัสเซียในหลายประเทศ
โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดสำคัญๆ ทั้งตลาด SPOT หรือตลาดซื้อขายล่วงหน้า ทั่วโลก ต่างปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดย สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ได้ทำการรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ช่วงวันที่ 29 ธ.ค. 64 จนถึงวันที่ 8 มี.ค. 65 พบว่า สินค้าหลายตัวที่ราคาเติบโตมากกว่า 50% ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม Energy Commodities อย่าง น้ำมันดิบทั้ง Dubai,WTI และ Brent หรือถ่านหิน ที่ปรับตัวขึ้นระดับ 60-70%
นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่ม Hard Commodities หรือพวกโลหะมีค่าก็ปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรง ไม่ว่าจะเป็นทองคำ หรือโดยเฉพาะ ราคานิกเกิล Nickel ที่ราคาปิดวันที่ 8 มี.ค.65 ทำสถิตินิวไฮปิดที่ 48,078 ดอลลาร์ต่อตัน และยังทะยานขึ้นต่อในวันนี้อีกจนทะลุ 80,000 ดอลลาร์ต่อตันไปแล้ว ซึ่งคิดเป็นการเติบโตมากถึง 300% หากเทียบกับช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา
ด้าน Soft Comodities อย่างสินค้าเกษตรก็ยังคงปรับตัวขึ้นได้ดี โดยเฉพาะราคาปาล์มน้ำมันในตลาดมาเลเซีย ที่ปรับตัวขึ้นถึง 36% หรือค่าระวางเรือที่ปลายปีก่อนปรับตัวลงมาอย่างหนักแต่ในปีนี้ก็เห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง
