การท่องเที่ยวที่กำลังคึกคัก หลังจากผ่านวิกฤติแพร่ระบาดโควิด ทำให้อุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ธุรกิจสายการบิน ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเดินทางจากทั่วโลก หลังสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลาย
"บางกอกแอร์เวย์ส" บูทีคแอร์ไลน์ระดับชั้นนำของประเทศ ที่พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ได้กางแผนการดำเนินธุรกิจ กับ"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" อย่างน่าสนใจ
*** รักษาจุดยืน Full Services รับนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ภาพรวมอุตสาหกรรมการบินโลกและการท่องเที่ยวของประเทศไทยยังมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้น จากสถิติของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) ปี 66 สะท้อนถึงอุปสงค์การเดินทางมีทิศทางบวก โดยการเดินทางระหว่างประเทศฟื้นตัวในระดับ 89% โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรปซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบางกอกแอร์เวย์ส มีการเดินทางระหว่างประเทศเกินกว่าระดับก่อนโควิด-19 ประมาณ 1%
สำหรับประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศภายในปี 67 จำนวน 30-35 ล้านคน และจากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 67 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวไทยแล้วกว่า 9.3 ล้านคน โดย 5 อันดับสัญชาติแรกที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยมากที่สุด ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย
ดังนั้นแนวโน้มธุรกิจการบินภายในปี 67 - 68 หลังจากนี้ คาดว่าจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ใกล้เคียงกับระดับช่วงก่อนเกิดโควิด โดยที่การแข่งขันจะเป็นไปตามกลไกการตลาด "บางกอกแอร์เวย์ส" ยังคงมุ่งมั่นในจุดยืนของแบรนด์สายการบินที่ให้บริการแบบเต็มรูปแบบ (Full Services) ที่เน้นทำการตลาดตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารที่มีความหลาหลาย และมีแผนโปรโมชั่นที่จูงใจตลอดทั้งปี รวมถึงการเพิ่มเป้าหมายทางการตลาดที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่มีแนวโน้มในการใช้บริการกับบางกอกแอร์เวย์สเพิ่มมากขึ้น
*** ขยายสนามบิน"สมุย-ตราด" รับการเดินทางคึกคัก
จากแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมการบินโลกและการท่องเที่ยวไทยมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมการดำเนินงานเพื่อพัฒนาสนามบินซึ่งอยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์และบริหารงานของบริษัท อาทิ สนามบินตราด พัฒนาในส่วนทางวิ่ง (รันเวย์) เพื่อรองรับเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
และการพัฒนาสนามบินสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับเที่ยวบินจากปัจจุบัน 50 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มเป็น 73 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยมีแผนการขยายทางวิ่ง รวมถึงพื้นที่ภายในสนามบิน ณ บริเวณด้านในอาคารผู้โดยสาร
สำหรับในด้านงบประมาณการลงทุนกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมทั้งหมดประมาณ 2,000-2,500 ล้านบาท
นักท่องเที่ยวจีน ถือเป็นอีกกลุ่มผู้โดยสารสำคัญ หลังรัฐบาลออกมาตรการยกเว้นวีซ่ากับประเทศจีน ทำให้มีการเดินทางระหว่างกันมากขึ้น ดังนั้น ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา "บางกอกแอร์เวย์ส" ได้กลับมาเปิดให้บริการในเส้นทาง “สมุย – ฉงชิ่ง” และ “สมุย – เฉิงตู” เฉลี่ย 2 - 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพื่อรองรับอุปสงค์ในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน
ในปี 67 บริษัทยังไม่มีแผนขยายเส้นทางบินใหม่ทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ แต่จะมีการเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางยอดนิยมที่บริษัทเปิดทำการบิน เพื่อรองรับอุปสงค์การเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ จากการผลักดันของรัฐบาลที่มีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว อาทิ การส่งเสริมการเที่ยวเมืองรอง การท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมเพื่อต่อยอดจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวและกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มในไทย มีบทบาทสนับสนุนภาคธุรกิจการท่องเที่ยวรวมถึงภาคอุตสาหกรรมการบินในเชิงบวก โดยบางกอกแอร์เวย์สได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ อาทิ การเพิ่มขึ้นของยอดจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลจากอุปสงค์ที่มีมาก
*** เดินหน้าเสริมทัพพันธมิตรทางธุรกิจอีก 2 สายการบิน
บริษัท ยังคงมีการดำเนินกลยุทธ์เครือข่ายความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรสายการบิน ซึ่งปัจจุบันมีสายการบินพันธมิตร (Codeshare Partners) รวม 28 สายการบิน และสายการบินข้อตกลงร่วม (Interline Partners) กว่า 70 สายการบิน
สำหรับปี 67 บริษัทมีแผนข้อตกลงความร่วมมือกับสายการบินเพิ่มเติมประมาณ 2 สายการบิน เพื่อส่งเสริมศักยภาพเครือข่ายเส้นทางบินและอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร รวมทั้งรองรับอุปสงค์การเดินทางระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้ออกโปรโมชั่นบัตรโดยสารราคาพิเศษทั้งในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเพิ่มเที่ยวบินพิเศษผนวกกับโปรโมชันเพื่อรองรับการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลวันหยุดยาวในเส้นทางศักยภาพของบางกอกแอร์เวย์ส รวมถึงอานิสงส์จากการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองในเส้นทางที่บางกอกแอร์เวย์สเปิดทำการบิน อาทิ แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย ตราด
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางการแข่งขันและกระตุ้นการท่องเที่ยวเดินทาง บริษัทยังได้ดำเนินกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมการขายโดยมีไฮไลท์โปรโมชันที่น่าสนใจซึ่งสามารถติดตามโปรโมชั่นพิเศษได้ตลอดทั้งปี ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.bangkokair.com/
*** วางเป้ารายได้ผู้โดยสารแตะ 1.8 หมื่นลบ.
ปี 67 บริษัทวางเป้าหมายการดำเนินงานของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส คาดการณ์มีจำนวนเที่ยวบิน 48,000 เที่ยวบิน อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 85% มีจำนวนผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน ตั้งเป้าหมายการเติบโตในส่วนรายได้ผู้โดยสาร (Passenger Revenue) อยู่ที่ 17,800 ล้านบาท และคาดการณ์ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินประมาณ 3,900 บาทต่อที่นั่ง จากปี 66 อัตราเฉลี่ยค่าบัตรโดยสารเท่ากับ 3,656 บาทต่อที่นั่ง
โดยยังเห็นการดำเนินงานดีขึ้นได้ต่อเนื่อง ตามการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวจากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ ที่คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 30-35 ล้านคน และอุตสาหกรรมการบินฟื้นตัว สะท้อนจาก จำนวนผู้โดยสารและจำนวนเที่ยวบินของบางกอกแอร์เวย์ส ไตรมาส 1/67 มีแนวโน้มเติบโตขึ้น สอดคล้องกับสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 3 เดือนแรก
"สำหรับปี 67 บริษัทคาดการณ์ผลประกอบการเป็นบวก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ราคาต้นทุนเชื้อเพลิงอากาศยานที่มีแนวโน้มผันผวน เศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ" นายพุฒิพงศ์ กล่าว
*** ธุรกิจเกี่ยวเนื่องเติบโตตามอุตสาหกรรมการบิน
นอกจากธุรกิจการบินที่ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ในส่วนธุรกิจที่เกี่ยวข้องคาดจะฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมการบิน ได้แก่ ครัวการบิน บริการภาคพื้น จากจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่ใช้สนามบินมากขึ้น รวมถึงธุรกิจคาร์โก้ที่คาดจะดีขึ้นในปีนี้
โดย บริษัทครัวการบินกรุงเทพ จำกัด (Bangkok Air Catering: BAC) จากปี 66 มีจำนวนลูกค้าสายการบิน 23 ราย มีรายได้ คิดเป็น 81% เมื่อเทียบปี 62 จากช่วงก่อนโควิด-19 และบริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด (BFS Ground) มีจำนวนลูกค้าสายการบินทั้งหมด 90 ราย และมีรายได้อยู่ในระดับ 93% จากปี 62 ในขณะที่บริษัทดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์โก้ จำกัด (BFS Cargo) มีลูกค้าสายการบิน รวม 86 สายการบิน และมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเที่ยบกับปี 62