"พลังงานบริสุทธิ์" ผุดธุรกิจกำจัดขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี หวังต่อยอดพัฒนาเป็นโรงไฟฟ้าขยะ พร้อมทุ่มงบ 1 พันล้านบาท ผลิตรถบัส-รถบรรทุกไฟฟ้า เน้นเจาะกลุ่มผู้ประกอบการขนส่ง เตรียมซื้อชิ้นส่วนมาประกอบในโรงงานผลิตรถยนต์ EV คาดเริ่มผลิตและขายได้ในปี 63 ด้านโบรกเกอร์ มองระยะสั้น 1-2 ปี ยังไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญ แต่จะเป็นผลบวกระยะยาว
*** ตั้ง 2 บริษัทย่อยลุยธุรกิจใหม่ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัทได้จัดตั้ง 2 บริษัทย่อยใหม่ ประกอบด้วย บริษัท สมาร์ท เวสท์ เมเนจเมนท์ จำกัด "Smart Waste Management Co., Ltd." มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการกำจัดขยะทุกประเภท และ บริษัท อีวีนาว จำกัด ดำเนินธุรกิจ ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ผลิตและจาหน่ายรถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และยานพาหนะอื่นทุกประเภท รวมถึงธุรกิจบริการขนส่งสาธารณะ
*** สร้างโรงไฟฟ้าขยะใน EEC นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางสาวออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า การจัดตั้งบริษัท สมาร์ท เวสท์ เมเนจเมนท์ จำกัด เพื่อลงทุนในธุรกิจกำจัดขยะประเภทอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และในอนาคตจะพัฒนาต่อยอดเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ซึ่งจะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่นิคมฯที่ตั้งในพื้นที่เดียวกัน "โดยเบื้องต้นจะรับจ้างกำจัดขยะประเภทอุตสาหกรรมในพื้นที่ของนิคมฯในเขตอีอีซี ที่ฉะเชิงเทรา และในอนาคตสามารถต่อยอดไปทำโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมได้" *** ทุ่ม 1 พันลบ.ผลิตรถบัส-รถบรรทุกไฟฟ้า สำหรับ บริษัท อีวีนาว จำกัด ดำเนินธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายรถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และยานพาหนะอื่นทุกประเภท รวมถึงธุรกิจบริการขนส่งสาธารณ โดยมีแผนใช้เงินลงทุน 1 พันล้านบาท เพื่อซื้อชิ้นส่วนมาประกอบ ซึ่งจะใช้โรงงานผลิตและประกอบร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ ยี่ห้อ MINE คาดจะเริ่มผลิตและขายได้ในช่วงต้นปี 63 ภายใต้แบรนด์ใหม่ ซึ่งจะรองรับลูกค้าสำหรับผู้ประกอบการขนส่งทั้งในภาคอุตสาหกรรมและขนส่งมวลชน "บริษัทที่ทำรถบัส รถบรรทุกไฟฟ้าคาดจะเริ่มเห็นในต้นปี 63 ทั้งนี้จะเป็นภายใต้ยี่ห้อใหม่ที่ไม่ใช่ MINE ซึ่งจะรองรับกลุ่มลูกค้าพวกขนส่ง โดยตอนนี้ก็ได้มีการคุยกับผู้ประกอบการแล้ว"
*** รุกขยายลงทุนในเวียดนาม บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเตรียมเข้าซื้อโควต้าใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ ฟาร์ม และโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนาม จากผู้ประกอบการท้องถิ่น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ให้ความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนเพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าโซลาร์ ฟาร์มประเภทไฮบริด
*** โบรกฯมองเห็นผลระยะยาว นายธีร์ธนัตถ์ จินดารัตน์ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กรณีที่ EA ตั้งบริษัทย่อยใหม่ทั้ง 2 แห่งถือเป็นปัจจัยบวกในระยะยาว เพราะเป็นการต่อยอดธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศลงทุนในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล MINE แต่ครั้งนี้เป็นการพัฒนาไปยังรถบัสโดยสาร และรถบรรทุก แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าจะยังไม่ช่วยสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญในช่วง 1-2ปีข้างหน้า โดยมองว่ารายได้หลักๆส่วนใหญ่ในปี 63 จะคงมาจากธุรกิจพลังงานทดแทน และการขายแบตเตอรี่ ส่วนแนวโน้มกำไรสุทธิ ในช่วงไตรมาส 3/62 คาดว่าจะทำได้ประมาณ 1,500-1,700 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของโรงไฟฟ้าพลังงานลม ซึ่งในไตรมาส 3/62 ถือเป็นไตรมาสแรกที่จะสามารถรับรู้กำลังการผลิตได้แบบเต็มกำลังทั้งพลังงานลม และพลังงานโซลาร์ รวมกำลังผลิต 664 เมกะวัตต์ คงคำแนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 60.25บาทต่อหุ้น
|