สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานวันนี้ (21 พ.ย.) ว่า ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ปิดบวกในวันจันทร์ (20 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้นกว่า 200 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแดค ปิดเพิ่มขึ้นกว่า 1% เนื่องจากหุ้นของไมโครซอฟท์ ปิดพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจ้างอดีต CEO ของบริษัท OpenAI ผู้พัฒนาแชตบอตยอดนิยมอย่าง ChatGPT
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 203.76 จุดหรือ 0.58% ปิดที่ 35,151.04 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 33.36 จุดหรือ 0.74% ปิดที่ 4,547.38 จุด และดัชนีแนสแดค ปิดเพิ่มขึ้น 159.05 จุดหรือ 1.13% ปิดที่ 14,284.53 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดในระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. ด้านดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ขณะที่ดัชนีแนสแดค ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 1.5% และอยู่ในอันดับสูงสุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มในดัชนี S&P 500 โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ของหุ้นไมโครซอฟท์ ที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และปิดลงที่ 2%
Satya Nadella ซีอีโอของไมโครซอฟท์ เปิดเผยว่านายแซม อัลท์แมน (Sam Altman) อดีตซีอีโอของบริษัท OpenAI ผู้พัฒนาแชตบอตยอดนิยมอย่าง ChatGPT และนาย Greg Brockman ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท OpenAI และนักวิจัยคนอื่น ๆ จะเข้ามาทำงานร่วมงานกับไมโครซอฟท์ ในฐานะผู้นำทีมวิจัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูงชุดใหม่ ซึ่งข่าวดังกล่าว ได้สร้างบรรยากาศเชิงบวกให้กับตลาด ส่งผลให้หุ้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อื่น ๆ รวมถึงเอ็นวิเดีย (Nvidia)และแอปเปิ้ล (Apple) ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
พร้อมกันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีของวอลล์สตรีท ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. หลังอ่อนตัวลงประมาณ 3 เดือน เนื่องจากหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อ่อนแรง และได้สนับสนุนการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด ได้สิ้นสุดวงจนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
วันนี้ (21 พ.ย.) คาดว่าเฟด จะออกรายงานการประชุมเดือนพ.ย. เร็วกว่าปกติ 1 วัน เนื่องจากติดวันหยุดวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งรายงานดังกล่าว อาจให้เบาะแสเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดและธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี ต่างตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมครั้งล่าสุด และคาดว่าจะสิ้นสุดวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังภาวะเงินเฟ้อทั้งในสหรัฐฯและยุโรปอ่อนตัวลงเป็นอย่างมาก
|