รมว.คลัง คาดจีดีพีปี 63 ติดลบ 6% ส่วนปี 64 โต 4% ลั่นอีก  2 ปี ศก.จะโตตามปกติ  พร้อมพิจารณาคนละครึ่งเฟส 2 -ของขวัญปีใหม่ประชาชน ด้านปีงบ 65 ระบุยังเน้นนโยบายกระตุ้นศก.

   นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษ ส่องเศรษฐกิจไทยปี 64 :เราจะรับมืออย่างไร ในงานสัมมนา Wealt Forum ลงทุนอย่างไร...ให้รวย ว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และคาดว่าทั้งปีเศรษฐกิจจะติดลบประมาณ 6% ขณะที่ในปี 64 คาดว่าจะกลับมาขยายตัวได้ประมาณ 4%

   “ปีนี้เราลำบาก แต่ปีหน้าเราน่าจะดีขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆขอให้อดทน ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีที่จะกลับมาขยายตัวได้ปกติก่อนวิกฤติโควิด-19 โดยสิ่งสำคัญคือการใช้จ่ายภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การช่วยเหลือภาคเอกชน ทั้งการท่องเที่ยว และภาคการบิน”นายอาคม กล่าว

   นายอาคม กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ซึ่งจะพิจารณาทั้งวงเงินงบประมาณ และสิทธิผู้ที่จะได้รับ เพื่อตอบสองความต้องการของประชาชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งในเบื้องต้น ผู้ที่ได้รับสิทธิเดิมอาจไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ เพราะกระทรวงการคลังมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่งจะง่ายต่อการใช้สิทธิต่อเนื่อง

   อย่างไรก็ตาม โครงการคนละครึ่ง ถือเป็นส่วนหนึ่งของการให้ของขวัญให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่นเดียวกันกับการเพิ่มวงเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากปัจจุบันที่ได้รับวงเงินเพิ่ม 500 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ขณะเดียวกันจะมีมาตรการอื่นๆด้วย ซึ่งจะมีความชัดเจนในเร็วๆนี้

   ส่วนข้อเสนอของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการนำรถยนต์เก่ามากกว่า 10 ปีมาแลกรถใหม่ โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณาในเรื่องดังกล่าวนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อเสนออย่างเป็นทางการจากกระทรวงอุตสาหกรรม แต่น่าจะเป็นที่เคยหารือกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่มองว่าควรจะสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้รถยนต์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม แต่จะต้องมีเงื่อนไขรถที่แลกควรจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือไฮบริด

   นายอาคม ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปัจจุบัน กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างทำแผนงบประมาณปี 65 ซึ่งยืนยันว่า ยังเป็นแผนงานในรูปแบบของการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศ