สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ได้เปิดเผยรายงานการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมจีนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาพบว่าตัวเลขการการขยายตัวอยู่ที่ 4.8% ลดลงจากเดือนมิถุนายน 1.5% และน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.8% ซึ่งนับเป็นการขยายตัวช้าสุดของอุตสาหกรรมจีนในรอบ 17 ปีนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2002 ซึ่งได้รับผลกระทบการจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความตึงเครียดของสงครามการค้าจีน - สหรัฐฯ
ไม่เพียงแต่การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมจะชะลอตัวเท่านั้น ตัวเลขในส่วนอื่นของเศรษฐกิจจีนก็ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้เช่นเดียวกัน โดยยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 7.6% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 8.6% และน้อยกว่าตัวเลขในเดือนมิถุนายน 2.2% ขณะที่การลงทุนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว 10.6% ลดลงจากช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.ที่มีการขยายตัวอยู่ที่ 10.9%
จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนกำลังดิ้นรนเพื่อรักษาเสถียรภาพ ท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามทางการค้า และเศรษฐกิจทั่วโลกที่อยู่ในสภาวะชะลอตัว ซึ่งเมื่อดูจากข้อมูลการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนพบว่ามีการเติบโตอยู่ที่ 3.8 % เท่านั้น
นอกจากนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน ยังได้เปิดเผยตัวเลขอัตราว่างงานของจีนใน ก.ค.พบว่าตัวเลขเพิ่มขึ้นจากเดิม 5.1% เป็น 5.3% ซึ่งเป็นผลมาจากผู้สำเร็จการศึกษาในทุกระดับของจีนได้เข้าสู่ตลาดแรงงานในเดือนนี้มากขึ้น
|