พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนก.ค. อยู่ที่ 7.61% ลดลงครั้งแรกในรอบปี หลังราคาสินค้าโดยเฉพาะพลังงานปรับลดลง พร้อมปรับคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 5.5-6.5% จากเดิมคาด 4-5%
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ก.ค. อยู่ที่ 7.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 0.16% ที่อยู่ที่ 7.66% โดยเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบปี 65 เป็นผลจากราคาสินค้าหลายรายการราคาปรับลดลงทั้งราคาพลังงาน น้ำมันพืช กาแฟ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เป็นต้น
ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไป 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.) พบว่าอยู่ที่ 5.89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ สนค.ได้ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 5.5-6.5% หรือค่ากลางที่ 6% เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะอยู่ที่ 4-5% ซึ่งสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับสมมติฐานการคาดการณ์เงินเฟ้อในครั้งนี้ ประกอบด้วย อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) คาดว่าจะอยู่ที่ 2.5-3.5% น้ำมันดิบดูไบทั้งปีที่ 90-110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนที่ 33.5-35.5 บาทต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม สินค้ากลุ่มพลังงานยังเป็นสาเหตุหลักต่ออัตราเงินเฟ้อในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นต้นทุนในทุกขั้นตอนการผลิตและโลจิสติกส์ของสินค้าและบริการ ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้น จากการส่งออก การท่องเที่ยว และราคาสินค้าเกษตรสำคัญสูงขึ้น
สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนก.ค.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.99% โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 0.5% ที่อยู่ที่ 2.51% ขณะที่ 7 เดือนแรกของปีนี้เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2.01%
ส่วนภาพรวมเงินเฟ้อในระยะถัดไป มองว่า มีโอกาสเป็นได้ทั้ง 2 ทิศทาง คือ เพิ่มขึ้น หรือลดลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างประกอบ โดยเฉพาะในด้านของราคาพลังงาน ซึ่งยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อ
ขณะที่ กรณีจีนมีการซ้อมรบใกล้ไต้หวันนั้น กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงติดตามประเทศใกล้เคียงอื่นๆด้วย โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าว่าจะมีผลกระทบต่อการนำเข้าและส่งออกอย่างไรต่อไทยบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เงินเฟ้อเดือนก.ค.65 ที่ประกาศออกมา ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 7.8-8.3%
|