สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานวานนี้ (16 มี.ค.) ว่า กลุ่มธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ อัดฉีดเงินฝากจำนวน 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือธนาคาร First Republic ที่จมอยู่ในวิกฤตที่ขยายวงกว้างขึ้น จากการล่มสลายของธนาคารขนาดกลาง 2 แห่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

หุ้นธนาคารทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก นับตั้งแต่ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ ล่มสลายลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังขาดทุนที่เกี่ยวข้องกับราคาพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับสิ่งอื่นที่อาจแฝงตัวอยู่ในระบบธนาคารที่กว้างขึ้น และความวุ่นวายภาคธนาคารได้ลุกลามไปยังทวีปยุโรป ส่งผลให้ธนาคารเครดิต สวิส ต้องกู้ยืมเงินสูงถึง 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารกลางของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเสริมสภาพคล่อง

ธนาคาร 11 แห่งของสหรัฐอเมริกา รวมทั้ง JPMorgan Chase & Co, Citigroup Inc, Bank of America Corp, Wells Fargo & Co, Goldman Sachs และ Morgan Stanley ต่างช่วยกันสนับสนุนธนาคาร First Republic ซึ่งเป็นธนาคารระดับภูมิภาค หลังหุ้นร่วงลง 70% ในการซื้อขายล่าสุด มูลค่าเงินที่อัดฉีดให้ครั้งนี้อยู่ที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยแผนนี้ได้รับการสนับสนุนจากทางการสหรัฐฯ

หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ กล่าวว่า การแสดงการสนับสนุนครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง และแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของระบบธนาคาร

รอบการจัดหาเงินทุนในวันอาทิตย์ (12 มี.ค.) ของ JPMorgan ทำให้ธนาคาร First Republic สามารถเข้าถึงกองทุนมูลค่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่สามารถทำให้นักลงทุน คลายความกังวลลงได้เนื่องจากความกังวลของการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์และธนาคาร Signature ทำให้ลูกค้าเริ่มถอนเงินสดและนำไปฝากยังธนาคารรายใหญ่

ทั้งนี้ จากการอัดฉีดสภาพคล่องของกลุ่มธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ ทำให้หุ้นของธนาคาร First Republic พุ่งขึ้น 10%