สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานวันนี้ (20 พ.ย.) ว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.45% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.20% หลังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 พ.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันที่มีต่อค่าเงินสกุลหยวน และผู้กำหนดนโยบายยังคงรอดูผลกระทบของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ ต่อความต้องการสินเชื่อ
ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ loan prime rate (LPR) ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ในการประชุมวันนี้ (20 พ.ย.) โดยจะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.45% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.20% หลังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนที่ระดับ 2.5% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 พ.ย.)
พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบจำนวน 1.45 ล้านล้านหยวน (2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านทางโครงการ MLF ซึ่งการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบดังกล่าว ถือเป็นจำนวนเงินมากที่สุดในรอบเกือบ 7 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และเพื่อช่วยคลี่คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะสภาพคล่องตึงตัว ในขณะที่รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นของจีน เตรียมออกพันธบัตรเพิ่ม เพื่อใช้เป็นทุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยอัตราดอกเบี้ยเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ถือเป็นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายเมื่อมีการกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางจีน มีระยะเวลาการกู้ยืม 6 เดือนถึง 1 ปี เพื่อเสริมสภาพคล่องระยะสั้น ขณะที่ดอกเบี้ยเงินกู้ loan prime rate (LPR) เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางจีน มอบให้กับลูกค้าชั้นดีที่สุดของธนาคารรวม 18 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยธนาคารของรัฐและธนาคารเอกชนที่มีบทบาทสําคัญในการให้สินเชื่อ
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ยังคงมีความไม่แน่นอน โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกปรับตัวดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ แต่ยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากการหดตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีน เป็นดัชนีวัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคเอกชน ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี เป็นดัชนีวัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้จำนอง
|