สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งล็อกดาวน์มณฑลไห่หนาน ซึ่งรวมถึงเมืองไหโข่ว ที่เป็นเมืองหลวงของมณฑล และเมืองซานย่าซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างไม่มีกำหนด เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อ 413 ราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของมณฑลไห่หนาน กล่าวว่า พบการระบาดของที่รุนแรงของไวรัสโควิด-19 ในทั้งสองเมืองของมณฑล ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศล็อกดาวน์ทั้งสองเมือง เพื่อควบคุมการระบาด ขณะที่อีกสองเมืองที่พบผู้ติดเชื้ออย่างเมืองว่านหนิง และเมืองฉงไห่ ก็ต้องปิดเมืองเช่นเดียวกัน
จากการประกาศล็อกดาวน์มณฑลไห่หนานในครั้งนี้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยว 80,000 คน จะไม่สามารถเดินทางออกจากเมืองซานย่าได้ โดยรัฐบาลจีนได้จัดเตรียมที่พักใกล้กับสนามบินนานาชาติซานย่า ฟีนิกซ์ ในราคา 50% ให้กับนักท่องเที่ยว 3,000 คนที่เดินทางมาถึงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) ประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทาง ด้วยการลดระยะเวลาการระงับเที่ยวบินที่พบผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 คน หรือ 4% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดเป็น 1 สัปดาห์จากเดิมซึ่งอยู่ที่ 2 สัปดาห์ และลดระยะเวลาการระงับเที่ยวบินที่พบผู้โดยสารติดเชื้อ 8% จากเดิมที่ 4 สัปดาห์ลงเหลือ 2 สัปดาห์ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสนับสนุนการเดินทางระหว่างประเทศ โดยได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนล่าสุดอยู่ที่ 2,295,648 ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 14,772 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ 589,384,415 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 6,436,492 ราย
|