สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4%  และเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 23 เดือนนับตั้งแต่เดือน พ.ค.2020

  ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อของจีนเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 32.8% ซึ่งกดดันให้ราคาอาหารภายในประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้มาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่เข้มงวดของรัฐบาลจีนได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับอุปสงค์ภายในประเทศ ทำให้นักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจจีนอาจเผชิญภาวะถดถอยในอนาคต

   นอกจากนี้ NBS ได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลงจากเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 6.4%  ซึ่งการลดลงของดัชนี PPI ในครั้งนี้เป็นผลมาจากผลผลิตของภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมถึงการออกนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าโภคภัณฑ์

   ทั้งนี้เศรษฐกิจจีนได้ส่งสัญญานฟื้นตัวหลังจากที่เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด และการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเมืองสำคัญของประเทศอย่างกรุงปักกิ่ง และ เซี่ยงไฮ้ โดยธนาคารกลางจีน (PBOC) ยืนยันว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวต่อเนื่อง