PSH แย้มผลประกอบการไตรมาส 2/65 ดีกว่าไตรมาสแรก ลุยเปิดอีก 9 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 5.9 พันล้านบาท พรอ้มคงเป้ารายได้ปีนี้ 3.3 หมื่นล้านบาท ยืนยันยังไม่ปรับขึ้นราคาขาย หลังต้นทุนวัสดุก่อสร้างปรับขึ้น 2-3%
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/65 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 1/65 หลังจากแก้ปัญหาเรื่องค่าแรง และการส่งมอบ และจาก Backlog ที่ได้มา และมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 9 โครงการ รวมมูลค่า 5,900 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 8 โครงการและบ้านเดี่ยว 1 โครงการ ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ 20,200 ล้านบาท เป็นยอดรับรู้รายได้ในปีนี้ที่ 18,700 ล้านบาท และจะมีโครงการแนวสูงที่สร้างเสร็จพร้อมทยอยโอนในปีนี้อีก 7 โครงการรวมมูลค่า 15,200 ล้านบาท
ในปีนี้ยังคงเป้ารายได้รวมที่ 33,000 ล้านบาท จากการลุยเปิด 30 กว่าโครงการใหม่ มูลค่ารวม 16,300 ล้านบาท โดยไตรมาส 2 เปิด 9 โครงการ รวม 5,900 ล้านบาท ที่เหลืออีกกว่า 10,000 ล้านบาท ทยอยเปิดในไตรมาส 3-4 ปีนี้
สำหรับราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับขึ้นราว 2-3% ของต้นทุน บริษัทยังไม่มีการปรับราคาขายบ้านในช่วงนี้ แม้ราคาปูนซิเมนต์และเหล็กไม่สามารถล็อกราคาซื้อล่วงหน้าได้ มีผลต่อต้นทุนบ้านเดี่ยว แต่สามารถลดการใช้ปูน ลดการใช้วัสดุซึ่งเป็นกลยุทธ์หลัก แม้ต้นทุนปรับขึ้น แต่ยังไม่ปรับราคาขายบ้าน แต่ถ้าเงินเฟ้อปรับขึ้นไปมากกว่านี้ จะพิจารณาเชิงกลยุทธ์อีกครั้งว่าจะปรับราคาขายบ้านหรือเปล่า แต่ถ้าต้นทุนตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องปรับราคาขายบ้านในช่วงนี้
ขณะที่คอนโดมิเนียมไม่มีต้นทุนสูงขึ้น เพราะสัญญาล็อกต้นทุนไว้หมดแล้ว ปัจจุบันมีที่ดินในมือรวมมูลค่า 15,000 ล้านบาท มูลค่าพัฒนาโครงการราว 8 หมื่นล้านบาท รองรับการเปิดโครงการได้อีกหลายปี
กลยุทธ์ในปีนี้ พฤกษามุ่งผสานความร่วมมือระหว่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลแคร์ โดยมีแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Mixed Use ที่จะผสานบริการด้านสุขภาพไว้ในโครงการเดียวกัน รวมถึงมองหาพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อเข้ามาเติมเต็มบริการตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างดีที่สุด
ในด้านการลงทุน ได้มีการเพิ่มพอร์ตลงทุนที่หลากหลายนอกจากการลงทุนในไทยที่ผสานความร่วมมือระหว่างธุรกิจเรียลเอสเตทและโรงพยาบาล ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการศูนย์สุขภาพแห่งแรกในชุมชนพฤกษาขนาด 50 เตียง ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการพฤกษา อเวนิว บางนา-วงแหวน ในเดือนส.ค.นี้
ขณะเดียวกันได้มีการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่โดยโรงพยาบาลวิมุตร่วมกับ JAS ASSET ก่อตั้งบริษัท Senera Vimut Health Service ทำโครงการ SENERA Senior Wellness บริเวณถนนคู้บอน เป็นศูนย์เมดิคอล ขนาด 5,713 ตร.ม. 4 ชั้น ขนาด 78 เตียง มีแผนเปิดให้บริการในเดือนธ.ค.นี้
นอกจากนี้ ยังได้มีการลงทุนทั้งในไทยออสเตรเลีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยเป็นกลุ่มธุรกิจประเภทนวัตกรรมด้านการพัฒนาความยั่งยืน ระบบความปลอดภัยในโลกดิจิตอล และ เฮลท์เทค พร๊อพเทคที่รองรับกระแสเทรนด์ที่อยู่อาศัยและการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
โดยธุรกิจด้านสุขภาพ แผนธุรกิจในไตรมาส 2/65 คาดว่ารายได้หลักจะมาจากการดำเนินงานเต็มรูปแบบของบริการด้านการแพทย์โรงพยาบาลและบริการศูนย์ฟื้นฟูดูแลสุขภาพครอบครัวและผู้สูงอายุ (ViMut Wellness Services) ซึ่งจะพัฒนาไปพร้อมกับโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ของพฤกษาอย่างต่อเนื่องด้วย
|