สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 ก.ค.) ที่ระดับ 31,097.26 จุด เพิ่มขึ้น 321.83 จุด หรือ +1.05% ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับ 3,825.33 จุด เพิ่มขึ้น 39.95 จุด หรือ +1.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับ 11,127.85 จุด เพิ่มขึ้น 99.11 จุด หรือ +0.90%
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันสุดท้ายของสัปดาห์ในแดนบวก ตามแรงซื้อหุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภค โดยหุ้นที่ปรับราคาเพิ่มมากที่สุดเป็น McDonald’s ที่เพิ่มขึ้น 2.46% หุ้น Coca-Cola เพิ่มขึ้น 2.34% และหุ้นโบอิ้งที่เพิ่มขึ้น 2.28%
อย่างไรก็ตามนักลงทุนต้องเผชิญแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อ่อนแอ หลัง S&P GLOBAL RATING ได้เปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐฯที่ระดับ 52.7 จุด ลดลงจากระดับ 57.0 จุด ในเดือนพ.ค. และเป็นตัวเลขที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2020 ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์จากต่างประเทศที่ลดลง
ขณะที่ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ได้เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ประจำเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 53.0 จุด ลดลงจากตัวเลข 56.1 จุดในเดือน พ.ค. และเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2020
ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันที่ 4 ก.ค.นี้ เนื่องจากวันชาติสหรัฐฯ
|