"เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์(JWD)" เผยปี 63 มีกำไร 290 ลบ. ลดลงจาก ปี62 ที่มีกำไร 362.8 ล้านบาท แม้รายได้รวมเติบโต 7.2% แตะ 3,900 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.22 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 10 พ.ค. นี้ มั่นใจปี 64 ผลประกอบการกลับมาเติบโตดี

              ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD เปิดเผยว่า ปี 63 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,922.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,660.2 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ต้องการรักษารายได้รวมเท่ากับปี 62 เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีกำไรสุทธิปี 63 รวม 290 ล้านบาท ลดลง 20% จากปี 62 ที่มีกำไร 362.8 ล้านบาท

  สำหรับรายได้รวมปี 63 ที่เติบโตดีกว่าเป้าหมายนั้น มาจากธุรกิจคลังสินค้าทั่วไปและธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นที่มีรายได้เติบโตกว่า 10% โดยในส่วนคลังสินค้าห้องเย็นปัจจุบันมีปริมาณการจัดเก็บสินค้าสูงสุดในรอบ 3-4 ปี เนื่องจากมีดีมานด์เพิ่มขึ้นและเกิดการเช่าพื้นที่เก็บสินค้าเป็นระยะเวลานานขึ้นในช่วงที่มีมาตรการล็อกดาวน์

  ส่วนธุรกิจบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์(Logistics Infrastructure) มีรายได้เติบโตอย่างโดดเด่น จากการรับบริหารท่าเทียบเรือสินค้าชายฝั่ง (Barge Terminal) ที่เปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา ภายในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และ มีปริมาณตู้คอนเทนเนอร์สินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นระดับสูงกว่า 10,000 ตู้ต่อเดือนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงธุรกิจให้บริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า (Self-Storage) ที่มีรายได้เติบโตดี

  นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจากธุรกิจให้บริการอาหาร (Food Services) ในไต้หวัน ที่มีรายได้เติบโตก้าวกระโดดจากการขยายบริการจัดเตรียมวัตถุดิบแก่ผู้ประกอบการฟาสต์ฟู้ดชั้นนำ และ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน Transimex Corporation ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำในประเทศเวียดนาม ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่ดีในปีที่ผ่านมา

  ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานปี 63 ในอัตรา 0.22 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 224.4 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 พฤษภาคมนี้ และ จะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 พฤษภาคม 64

  ด้าน นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD เปิดเผยว่า ปี 64 มั่นใจว่าจะเป็นปีที่สามารถผลักดันรายได้ และผลกำไรเติบโตได้ดี เนื่องจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของ COVID-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรุนแรงเท่ากับปีที่ผ่านมา ประกอบกับ ธุรกิจรับฝาก และ บริหารยานยนต์ รวมถึงธุรกิจรับฝาก และ บริหารคลังสินค้าอันตรายของ JWD มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยสามารถทำรายได้ช่วงไตรมาส 4/63 สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า และ คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้

  ส่วนสถานการณ์ธุรกิจในเดือนมกราคมที่ผ่านมาถึงปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ดี โดยธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ปัจจุบันมีความต้องการจัดเก็บสินค้ามากกว่าปริมาณพื้นที่รองรับได้ ส่วนการดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามแดนจากไทย-เมียนมา ขณะนี้ยังดำเนินการได้ตามปกติ แต่อาจใช้ระยะเวลาการขนส่งเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการตรวจตราที่เข้มงวด

  นอกจากนี้ จะรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจที่ขยายการลงทุนแล้วเสร็จ เช่น การเปิดให้บริการคลังสินค้าจัดเก็บเอกสารแห่งใหม่ที่ใช้ระบบอัตโนมัติ , การเปิดบริการคลังห้องเย็นโรบอติกส์ (อาคาร 9) , ขยายการให้บริการท่าเทียบเรือสินค้าชายฝั่งรองรับตู้คอนเทนเนอร์สำหรับสินค้าส่งออก เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปีนี้