สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายจิม ชานอส (Jim Chanos) ผู้จัดการกองทุนชาวสหรัฐฯและนักชอร์ตหุ้นระดับตำนาน ประกาศปิดกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ดูแลมานานเกือบ 40 ปี และมีแผนที่จะคืนเงินทุนเกือบทั้งหมดให้กับนักลงทุนแต่ละรายภายในสิ้นปีนี้ 

บริษัท Chanos & Co หรือในชื่อเดิมคือ Kynikos Associates ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2528 มีแผนที่จะคืนเงินทุนเกือบทั้งหมดให้กับนักลงทุนแต่ละราย ภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ หลังดำเนินการมานานถึง 38 ปี โดยในปัจจุบัน นายจิม ชานอส บริหารจัดการเงินได้ไม่ถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจาก 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2551 

นายจิม ชานอส ระบุในจดหมายที่ส่งให้กับลูกค้าว่า “ไม่มีอะไรที่เป็นความลับว่าโมเดลธุรกิจเกี่ยวกับการจำลองทางธุรกิจในการซื้อ/ขาย (long/short) หุ้นเผชิญแรงกดดันมากขึ้น ความสนใจในการคัดเลือกหุ้นจากปัจจัยพื้นฐานก็ลดลง ขณะที่ตนยังคงมีแพสชันหรือความหลงไหล กับการค้นหาข้อมูลและลงทุนเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ตนกลับรู้สึกว่ากำลังถูกบังคับให้ทำตามแพสชันเหล่านี้ ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป” 

นายจิม ชานอส กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง หลังขายชอร์ตหุ้น Enron ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนกลุ่มแรก ๆ ที่เข้าไปชอร์ตหุ้น Enron ตั้งแต่ 1 ปีก่อนที่บริษัทจะถูกเปิดเผยว่าฉ้อโกง จนทำให้ราคาหุ้นดิ่งลงจาก 79.14 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2543 มาเหลือ 60 เซนต์ในเดือนธ.ค. 2544 พร้อมกันนี้ จิม ชานอส ยังมีชื่อเสียงจากการเดิมพันที่สามารถสร้างกำไร จากบริษัทไวร์การ์ด (Wirecard) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการชำระเงินที่ประสบปัญหา โดยในปี 2563 ไวร์การ์ด เปิดเผยว่า บริษัทไม่ได้มีเงินหลายพันล้านยูโรจริง ตามที่บันทึกไว้ในบัญชีของบริษัท 

ขณะเดียวกัน จิม ชานอส ได้เดิมพันกับการที่ราคาหุ้นเทสลา ผู้ผลิตรถไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของนายอีลอน มัสก์ ว่าจะร่วงลง จากปัญหาเรื่องของโมเดลธุรกิจและมูลค่าหุ้น จนเทสลาต้องเผชิญกับผลขาดทุนกว่า 5 ปี หลังจากราคาหุ้นวิ่งขึ้น 1,500% นับตั้งแต่ปี 2558

นอกจากนี้ ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เขาได้เปิดเผยว่าหุ้นของ General Electric Co มีราคาต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก ก่อนที่ราคาหุ้นของ General Electric ในปัจจุบัน จะเพิ่มขึ้น 83.4% ในปีนี้

ทั้งนี้ นายจิม ชานอส ระบุว่า “ยุคทองของการทุจริตฉ้อโกง จะยังคงดำเนินต่อไป” และท่ามกลางโอกาสในการชอร์ตที่มีอยู่มากมาย ทำให้ตนได้หันเป้าไปที่ธุรกิจ Data Centers และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แทน