PTG คาดผลงาน Q4/66 กลับมาโตดีกว่างวด Q3/66 เหตุปริมาณขายน้ำมันเพิ่ม-ค่าการตลาดฟื้นตัว เล็งเปิดตัวธุรกิจใหม่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี หนุนเป้าปริมาณขายน้ำมันปีนี้โต 12% จากปีก่อน พร้อมกางแผน 5 ปี ดันมาร์เก็ตแชร์แตะ 25%

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่าสำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/66 คาดว่าจะเติบโตดีกว่างวดไตรมาส 3/66 ที่เป็นช่วงโลซีซั่นของธุรกิจจำหน่ายน้ำมัน เนื่องจากคาดว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและค่าการตลาดที่ฟื้นตัวหลังปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.70-1.80 บาท รวมถึงยอดขายของธุรกิจอื่นๆจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้มองว่าแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไม่ส่งผลกรทบต่อบริษัทมากนัก เนื่องจากค่าการตลาดยังอยู่ในสภาวะปกติ แต่ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากนโยบายการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชนของภาครัฐ หลังมีการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวและบริษัทได้เตรียมความพร้อมรับมือโดยการระบายสต็อกน้ำมันล่วงหน้าอยู่แล้ว ส่วนด้านการปรับลดราคาขายน้ำมันเบนซินลงนั้น คาดว่ารัฐบาลน่าจะการพิจารณาเป็นของขวัญให้ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่

ขณะที่ทิศทางผลการดำเนินงานปีนี้ บริษัทคาดว่าปริมาณจำหน่ายน้ำมันจะเติบโตประมาณ 12% จากปีก่อน และในส่วนของธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน (Non-Oil) คาดว่ายอดขายจะเติบโตเป็นอย่างมาก ขณะที่การขยายธุรกิจยังเดินหน้าตามแผน นอกจากนี้ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีบริษัทยังมีแผนเปิดตัวธุรกิจใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย

"บริษัทตั้งเป้าหมายในช่วง 5 ปีข้างหน้า จะมีส่วนแบ่งการตลาด (มารเก็ตแชร์) ด้านการจำหน่ายน้ำมันที่ระดับ 25% และมีสมาชิกกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตร PT Max Card แตะ 30 ล้านราย รวมถึงมีเป้าการขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทยกว่า 50,000 สาขา" นายพิทักษ์ กล่าว