"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ในรอบวันทำการซื้อขาย 1 สัปดาห์หลังสุด (ข้อมูลสิ้นสุด ณ 3 มี.ค.64) พบว่ามีถึง 12 บริษัทที่ราคาหุ้นขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ในรอบ 5 ปี ประกอบด้วย
-
12 หุ้นราคาพุ่งนิวไฮรอบไม่ต่ำกว่า 5 ปี
|
ชื่อย่อหุ้น
|
ราคาไฮล่าสุด (บ.)
|
นิวไฮรอบ (ปี)
|
กำไรปี 63 (ลบ.)
|
%Chg. YoY
|
กำไรสูงสุดรอบ (ปี)
|
NER
|
5.8
|
All Time High
|
858.68
|
59.35
|
All Time High
|
COM7
|
58.5
|
All Time High
|
1,494
|
22.83
|
All Time High
|
STA
|
58.75
|
All Time High
|
9,531.21
|
6,516.59
|
All Time High
|
SPVI
|
4.42
|
All Time High
|
73.3
|
-3.17
|
หดตัว 3.17% YoY
|
RBF
|
15
|
All Time High
|
397.26
|
12.61
|
All Time High
|
DOHOME
|
20.9
|
All Time High
|
726.68
|
0.16
|
All Time High
|
KWM
|
4.74
|
All Time High
|
43.32
|
60.15
|
All Time High
|
APURE
|
3.62
|
15 ปี
|
319.62
|
996.84
|
All Time High
|
ZMICO
|
3.3
|
14 ปี
|
-16.62
|
-120.44
|
หดตัว 120% YoY
|
RCL
|
28.25
|
13 ปี
|
1,745
|
454.86
|
All Time High
|
TRUBB
|
2.94
|
8 ปี
|
-120.53
|
65.73
|
1 ปี
|
ICHI
|
14
|
6 ปี
|
515.5
|
26.52
|
3 ปี
|
12 บริษัทข้างต้น เป็นหุ้นขนาดใหญ่ในดัชนี SET100 ถึง 9 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจการเกษตร, พาณิชย์ และอาหาร-เครื่องดื่ม ติดโผสูงสุดกลุ่มละ 2 บริษัทเท่ากัน
ทั้งนี้พบว่ามีถึง 7 บริษัทที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นทำสถิติใหม่ตลอดกาล (All Time High) โดยหากคำนวณผลตอบแทนจากราคาหุ้น ณ สิ้นปี 63 ถึงจุดสูงสุดใหม่ บมจ.เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค (KWM) ให้ผลตอบแทนสูงสุดในปีนี้ถึง 343% รองลงมาคือ บมจ.ซีมิโก้ แคปปิตอล (ZMICO) ให้ผลตอบแทน 208.4%
ขณะที่ เมื่อสำรวจผลประกอบการปี 63 พบว่า มีถึง 8 บริษัทที่กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดตลอดกาลเช่นกัน โดยปี 63 บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) มีกำไรสุทธิ 9.5 พันล้านบาท เติบโตสูงสุดในกลุ่ม ถึง 6,516.59% เมื่อเทียบกับปีก่อน รองลงมาคือ บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) ที่มีกำไรสุทธิ 319.62 ล้านบาท เติบโตขึ้น 996.84% จากปีก่อน
อย่างไรก็ตามมี 3 บริษัทที่กำไรลดลงและยังขาดทุน ประกอบด้วย บมจ.เอส พี วี ไอ (SPVI) ที่ปี 63 มีกำไรสุทธิ 73.3 ล้านบาท ลดลง 3.17% จากปีก่อน , บมจ.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป (TRUBB) ขาดทุนสุทธิ 120.53 ล้านบาท แต่ขาดทุนลดลงจากปี 62 ที่ขาดทุนสุทธิ 351.72 ล้านบาท และ บมจ.ซีมิโก้ แคปปิตอล (ZMICO) พลิกขาดทุนสุทธิ 16.62 ล้านบาท จากปี 62 ที่มีกำไร 81.33 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อสำรวจราคาเหมาะสมเฉลี่ยของหุ้นข้างต้นจาก IAA Consensus ณ 2 มี.ค.64 พบว่า ส่วนใหญ่ ราคาล่าสุด เกินมูลค่าพื้นฐานไปแล้ว ดังนี้
12 หุ้นราคาพุ่งนิวไฮรอบไม่ต่ำกว่า 5 ปี
|
ชื่อย่อหุ้น
|
ราคาไฮปี 64 (บ.)
|
%Chg. เทียบสิ้นปี 63
|
ราคาเหมาะสม (บ.)
|
%อัพไซด์*
|
KWM
|
4.74
|
343
|
2.58
|
-40.28
|
ZMICO
|
3.3
|
208.4
|
n/a
|
n/a**
|
STA
|
58.75
|
121.7
|
47.09
|
-1.9
|
RCL
|
28.25
|
98.9
|
25
|
3.73
|
TRUBB
|
2.94
|
77.1
|
n/a
|
n/a**
|
APURE
|
3.62
|
70.8
|
2.54
|
-23.95
|
RBF
|
15
|
61.3
|
12.24
|
-16.16
|
SPVI
|
4.42
|
52.4
|
4.09
|
-2.62
|
COM7
|
58.5
|
50
|
53.93
|
-1.05
|
DOHOME
|
20.9
|
49.3
|
16.56
|
-21.14
|
ICHI
|
13.8
|
49.2
|
14.2
|
2.16
|
NER
|
5.8
|
36.2
|
6.08
|
9.55
|
*อัพไซด์เทียบราคาปิด ณ 2 มี.ค.64
** n/a ไม่มีบทวิเคราะห์รองรับ
|
โดย KWM เป็นบริษัทที่ราคาหุ้นเกินพื้นฐานมากสุดถึง 40.28% รองลงมา คือ APURE ที่ราคาหุ้นเกินพื้นฐาน 23.95% ขณะที่ อีก 2 บจ.ที่ราคาหุ้นเกินพื้นฐานมากกว่า 10% ประกอบด้วย บมจ.ดูโฮม (DOHOME) ราคาหุ้นเกินพื้นฐาน 21.14% และ บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) ราคาหุ้นเกินพื้นฐาน 16.16%
ฟาก บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) เป็นบริษัทที่มีอัพไซด์สูงที่สุด แต่เหลืออัพไซด์เพียง 9.55% รองลงมา คือ บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) ที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์เหลือเพียง 3.73% และ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) ที่ราคาหุ้นเหลืออัพไซด์เพียง 2.16%
ส่วน TRUBB และ ZMICO เป็น 2 บริษัทที่ไม่มีบทวิเคราะห์รองรับ จึงไม่มีราคาเป้าหมายจากโบรกเกอร์
|