efinancethai

ข่าวหุ้นล่าสุด

ดาวโจนส์ปิดบวก 317.24 จุด นลท.ประเมินแนวโน้มเฟดลดดอกเบี้ย

 

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -6 ก.พ. 68 7:30: น.

 

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาปิดแดนบวกในวันพุธ (5 ก.พ.) หลังร่วงลงในช่วงแรกของการซื้อขาย โดยนักลงทุนมองข้ามผลประกอบการที่น่าผิดหวังของ Alphabet และประเมินแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แทน

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 317.24 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 44,873.28 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 23.60 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 6,061.48 จุด และดัชนีแนสแดค ปิดเพิ่มขึ้น 38.32 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 19,692.33 จุด

 

ตลาดยังรอความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการภาษีขงสหรัฐฯ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ กล่าวว่า ตนเองยังไม่เร่งรีบที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เพื่อหาทางคลี่คลายสงครามการค้า โดยดัชนีความผันผวนของ Cboe  ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกกังวลในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลง 7.9% มาอยู่ที่ระดับ 15.85 เมื่อคืนนี้

 

หุ้น 8 จาก 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P 500 ปิดในแดนบวก นำโดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่กลุ่มบริการด้านการสื่อสาร ร่วงลงเกือบ 3%

 

หุ้นของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ร่วงลง 7.3% หลังจากรายงานว่า ธุรกิจคลาวด์ของบริษัทชะลอตัวลงในไตรมาสล่าสุด และบริษัทได้ประกาศเตรียมลงทุนมูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการพัฒนา AI ในปีนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์

 

ขณะที่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI บางส่วนกลับมาฟื้นตัว หลังถูกเทขายอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พัฒนาโดย DeepSeek โดยหุ้น Nvidia ซึ่งร่วงลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ก่อน  ปิดตลาดบวก 5.4% ขณะที่ Broadcom บวกขึ้น 4.3%

 

 

ร็อบ ฮาเวิร์ธ (Rob Haworth) นักยุทธศาสตร์การลงทุนอาวุโส จาก U.S. Bank Asset Management ให้ความเห็นว่า " ความต้องการ AI จะไม่หายไป แม้จะมีกระแสข่าวเกี่ยวกับ DeepSeek บริษัทต่าง ๆ จะใช้เงินลงทุนมากขึ้น และนั่นคือ สิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ AI วัฏจักรนี้จะยังคงปรากฏอยู่ค่อนข้างนาน"

 

ขณะที่หุ้น Advanced Micro Devices ร่วงลง 6.3% หลังจากที่ลิซ่า ซู (Lisa Su) ซีอีโอของบริษัทกล่าวว่า รายได้จากฝั่งดาต้าเซ็นเตอร์ในไตรมาสปัจจุบันของบริษัท ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ AI อาจลดลงราว 7% จากไตรมาสก่อนหน้า

 

ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อคืน สถาบันจัดการด้านอุปทาน (Institute for Supply Management) เผยว่า กิจกรรมภาคบริการของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในเดือนม.ค. โดยดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือนม.ค. จากระดับ 54.0 ในเดือนธ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.2 เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัวลง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมการเพิ่มขึ้นของราคา

 

ฮาเวิร์ธยังกล่าวว่า "มีข้อกังวลอยู่บ้างว่า เฟดอาจต้องผ่อนคลายนโยบายเร็วกว่านี้ และเศรษฐกิจก็กำลังชะลอตัว แต่อาจเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาด ซึ่งกำลังรอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอยู่"

 

ทั้งนี้ การประชุมครั้งต่อไปของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะมีขึ้นในเดือนมี.ค. โดยมีนักลงทุนเพียง 16.5% เท่านั้นที่คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ โดยส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ตามข้อมูลของ FedWatch Tool ของ CME

 

โธมัส บาร์กิน (Thomas Barkin) ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เฟดยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้  ขณะเดียวกันก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษี, ผู้อพยพ, กฎระเบียบ และโครงการอื่น ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

 

ขณะที่หุ้นอื่น ๆ พบว่าหุ้น Apple ร่วงลง 0.1% หลังบลูมเบิร์ก รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านการผูกขาดของจีนเตรียมสอบสวนบริษัท ด้านหุ้น Uber Technologies ร่วงลง 7.6% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่า ยอดจองใช้บริการในไตรมาสปัจจุบันอาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

ขณะที่หุ้น Fiserv ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน พุ่งขึ้น 7.1% หลังเผยกำไรไตรมาส 4 สูงกว่าที่คาดไว้ โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจด้านธนาคารและการประมวลผลการชำระเงิน

 

นักลงทุนจับตารายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.)

 

ที่มา Reuters

 




รายงาน    Supak Hopuengju 
เรียบเรียง  Supak Hopuengju 
                อีเมล์. [email protected]
แบบสอบถามความพึงพอใจ









ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

LATEST NEWS

ข่าวที่เกี่ยวข้องล่าสุด

Refresh

ดูข่าวทั้งหมด

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh