สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า สถาบันวิจัยในประเทศบราซิล ได้เปิดเผยผลการทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของบริษัท Sinovac Biotech ของประเทศจีน โดยพบว่าวัคซีนของทาง Sinovac มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงกว่าระดับมาตรฐานที่ 50% แต่กลับถูกทาง Sinovac สั่งชะลอการรายงานผลการทดลองออกไป เนื่องจาก Sinovac ต้องการเปิดเผยผลการทดลองที่แม่นยำหลังจากนี้เป็นระยะเวลา 15 วัน
โดยเจ้าหน้าที่ของสถาบันวิจัยบูตันตัน ในรัฐเซาเปาโล ได้ปฎิเสธที่จะเปิดเผยผลการทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 หลังได้ทำการทดลองกับอาสาสมัคร 13,000 คน โดยอ้างถึงข้อตกลงตามสัญญาที่ทำไว้กับทาง Sinovac ซึ่งพวกเขาบอกได้เพียงว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะป้องกันไวรัสโควิด-19 และเชื่อว่าวัคซีนจะได้รับการอนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินเนื่องจากมีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงกว่าที่ Anvisa ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลด้านสาธารณสุขของบราซิลกำหนดไว้ที่ 50%
ขณะที่นายแพทย์ดิวาส โคมาส ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยบูตันตัน กล่าวว่า ผลการทดลองไม่มีอาสาสมัครคนใดที่มีอาการรุนแรง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากกับการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 และการที่วัคซีนมีประสิทธิการป้องกันสูงกว่า 50% จะทำให้วัคซีนของ Sinovac ได้รับการอนุมัติจาก Anvisa และสามารถฉีดให้กับประชาชนได้ทันที่ในวันที่ 25 ม.ค.64
ทั้งนี้ บราซิลเป็นประเทศแรกที่ทราบผลการทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของบริษัท Sinovac แต่การเปิดเผยผลการทดลองต้องถูกเลื่อนไปถึง 3 ครั้ง เนื่องจากทาง Sinovac ต้องการข้อมูลแม่นยำ ซึ่งการเปิดเผยผลการทดลองที่ล่าช้าทำให้ Sinovac ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าขาดความโปร่งใส และส่งผลให้ประชาชนของบราซิล มากกว่า 50% ปฎิเสธที่จะฉีดวัคซีนของ Sinovac เนื่องจากไม่มั่นใจในด้านความปลอดภัย
|