*** สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนมี.ค. ปิดที่ 70.61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 42 เซนต์ หรือ 0.6%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดที่ 74.29 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.4%
ราคาน้ำมันดิบปิดลดลง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ย้ำคำมั่นสัญญาที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ซึ่งสร้างความวิตกกังวลให้กับบรรดานักลงทุน หลังก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าปริมาณน้ำมันดิบสำรองเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก
*** การดำเนินการของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการสกัดกั้นการนำเข้าสินค้าราคาถูกที่เข้ามาในสหรัฐฯ โดยปลอดภาษี มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อ Shein ผู้ค้าปลีกฟาสต์แฟชั่นมากกว่าร้านค้าออนไลน์สไตล์อย่าง Temu เนื่องจาก Temu มีสินค้าที่หลากหลายกว่าและกำลังปรับกลยุทธ์การขนส่ง โดยทั้ง Shein และ Temu ต่างมียอดขายเติบโตอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยได้รับประโยชน์จากกฎ “de minimis” ซึ่งเป็นมาตรการที่ยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ โดยรายงานเมื่อเดือนมิ.ย. 2023 ประเมินว่า 2 บริษัทจากจีน มีส่วนแบ่งมากกว่า 30% ของพัสดุที่ถูกส่งมายังสหรัฐฯ ภายใต้กฎดังกล่าวในแต่ละวัน
*** การตัดสินใจของสหรัฐฯ ในการระงับและอาจยกเลิกหน่วยงานให้ความช่วยเหลือหลักของตน ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับประเทศที่ได้รับเงินทุนดังกล่าว และอาจทำให้ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ดึงดูดเงินลงทุนจากภาคเอกชนได้ยากขึ้น โดยสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ไม่เพียงแต่จัดสรรงบประมาณมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2023 เท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนในหลายภาคส่วน ตั้งแต่สาธารณสุขไปจนถึงธุรกิจขนาดเล็ก อีกทั้งยังช่วยเสริมความน่าเชื่อถือด้านสินเชื่อของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่กู้เงินในตลาดตราสารหนี้ภาครัฐอีกด้วย
*** จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นคำร้องขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา สอดคล้องกับสภาพตลาดแรงงานที่ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง โดยคำร้องขอรับสวัสดิการการว่างงานรายใหม่เพิ่มขึ้น 11,000 ตำแหน่ง เป็น 219,000 ตำแหน่ง สำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 1 ก.พ. โดยความยืดหยุ่นของตลาดแรงงานเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีพื้นที่ในการหยุดพักการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายประเมินผลกระทบของนโยบายการคลัง การค้า และการย้ายถิ่นฐานของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ
*** ลอรี โลแกน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาดัลลัส กล่าวว่า เธอพร้อมที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมเป็น “ระยะเวลาหนึ่ง” แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ตาม โดยเงื่อนไขคือตลาดแรงงานต้องไม่ทรุดตัวลง พร้อมกล่าวว่า เธอจะมองว่าการชะลอตัวของเงินเฟ้อควบคู่กับตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ถือเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่านโยบายการเงินไม่ได้มีความเข้มงวดอย่างมีนัยสำคัญ
*** บริษัท นิปปอน สตีล ผู้ผลิตเหล็กที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น กล่าวว่าข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการบริษัท ยูเอส สตีล ของสหรัฐฯ สอดคล้องกับเป้าหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้สหรัฐฯ แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ผู้นำของทั้ง 2 ชาติกำลังเตรียมพบปะกันในเร็ว ๆ นี้ โดยข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการยูเอส สตีล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของแผนขยายตัวระดับโลกของนิปปอน สตีล ถูกปฏิเสธโดยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ให้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ทำให้นิปปอน สตีล และยูเอส สตีล ยื่นฟ้องร้องจำนวนหลายคดี
*** นายทิฟฟ์ แมคเลม ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ กำลังสร้างความไม่แน่นอน และภัยคุกคามเรื่องภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและครัวเรือนแล้ว โดยทรัมป์ตกลงที่จะระงับการเก็บภาษีในอัตรา 25% ชั่วคราว สำหรับการนำเข้าเกือบทั้งหมดจากแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งหากมีการบังคับใช้จริง อาจจะผลักดันเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศให้เข้าสู่ภาวะถดถอยและส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น
*** ปิเอโร ชิโปลโลเน สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลาง (ECB) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังมีช่องว่างให้ปรับลดลงได้อีก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว พร้อมเตือนว่าสงครามการค้าระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับจีน อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มยูโรโซนที่มีสมาชิก 20 ประเทศ โดย ECB ได้ปรับลดต้นทุนการกู้ยืมไปแล้ว 5 ครั้งนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจเริ่มมีน้ำหนักมากกว่าความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยอีก 3 ครั้งในปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวอย่างยากลำบากหลังจากซบเซามานานเกือบ 2 ปี
*** ตลาดหุ้นยุโรปทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ราคาทองคำอยู่ใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล และตลาดพันธบัตรกลับมาเผชิญแรงกดดันอีกครั้งในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนหันกลับมาให้ความสนใจกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยโลกและหุ้นเทคโนโลยี หลังจากวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าหลายวัน
ค่าเงินปอนด์อังกฤษ ร่วงลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% แต่ตลาดหุ้นยุโรปกลับปรับตัวขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากสัญญาณเชิงบวกของบริษัทยา AstraZeneca และหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ส่งผลให้ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้น 0.7%

*** ธนาคารกลางอังกฤษ มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.50% โดยประเมินว่าการปรับคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับปี 2025 ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจะเป็นเพียงชั่วคราว ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง 2 นาย เรียกร้องให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่านี้ ท่ามกลางภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
*** การขึ้นภาษีตอบโต้ของจีนต่อสหรัฐฯ อาจส่งผลให้การส่งออกน้ำมันของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในปี 2025 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากที่การเติบโตหยุดนิ่งในปีที่แล้ว โดยการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า นับตั้งแต่ที่ยกเลิกการห้ามส่งออกน้ำมันภายในประเทศซึ่งมีมาอย่างยาวนานถึง 40 ปีในปี 2015 โดยสิ่งดังกล่าว ช่วยให้สหรัฐฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย และลดผลกระทบทั่วโลกจากการลดกำลังผลิตของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร
*** จีน ยื่นคำร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อต่อต้านมาตรการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีนำเข้า 10% กับสินค้าจากจีน และการยกเลิกการยกเว้นภาษีสำหรับพัสดุที่มีมูลค่าต่ำ โดยระบุว่ามาตรการดังกล่าวเป็น “การปกป้องทางการค้า” และละเมิดกฎของ WTO โดยคำร้องขอปรึกษาด้านการค้าของจีน มีขึ้นท่ามกลางความสับสนของบริษัทขนส่งและผู้ค้าปลีก หลังจากทรัมป์ยกเลิกข้อยกเว้น “de minimis” สำหรับการนำเข้าพัสดุที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นช่องทางที่บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่อย่าง Shein, Temu และ Amazon ใช้งานอย่างแพร่หลาย
*** BYD ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน วางแผนที่จะจ้างพนักงาน 20,000 คนในเมืองเจิ้งโจวในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยจะจ้างในสาขาต่าง ๆ เช่น งานวิจัยและพัฒนาและการผลิต โดยมีพนักงานประมาณ 60,000 คนที่ประจำการในฐานการผลิตของ BYD ในเมืองหลวงของมณฑลเหอหนาน ซึ่งตามรายงานระบุว่าโรงงานในเจิ้งโจวจะเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้ โดยในปีที่แล้ว มีรถยนต์ราว 545,000 คันที่ถูกผลิตขึ้นในเจิ้งโจว เพิ่มขึ้น 169.8%
*** Oracle เพิ่มชุดเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชุดใหม่ เข้าไปใน NetSuite ซึ่งเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์ด้านการเงินองค์กรของบริษัท โดยรวมถึงเครื่องมือบางอย่างที่อาจช่วยให้ลูกค้าได้รับใบเสนอราคาสำหรับการซื้อสินค้าตามสั่ง เช่น จักรยานแบบปรับแต่งเอง ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดย Oracle ใช้แนวทางที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง Microsoft ในด้าน AI แทนที่จะเร่งพัฒนาแชตบอทอเนกประสงค์ แต่ Oracle เลือกที่จะเพิ่มฟีเจอร์เฉพาะทางที่ช่วยให้การทำงานที่ซ้ำซากแต่จำเป็นรวดเร็วขึ้น เช่น การบันทึกสรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับผลการประชุมฝ่ายขายลงในระบบบันทึกข้อมูลขององค์กร
*** DeepSeek ระงับการเติมเงินสำหรับบริการ API ชั่วคราว ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้นักพัฒนารุ่นอื่นสามารถรวมโมเดล AI ของบริษัทเข้าไปได้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์ โดยสตาร์ทอัพ AI สัญชาติจีนรายนี้ เผชิญกับปัญหาเซิร์ฟเวอร์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณการใช้งานที่พุ่งสูงขึ้นจากความต้องการทั่วโลก
*** กระทรวงอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ ประกาศระงับการเข้าถึงสตาร์ทอัพปัญญาประดิษฐ์ของจีน DeepSeek ชั่วคราวสำหรับพนักงาน เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคง ขณะที่รัฐบาลเรียกร้องให้ใช้ความระมัดระวังในการใช้งานบริการ AI เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) โดยรัฐบาลได้ออกประกาศเมื่อวันอังคาร เตือนให้กระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ใช้ความระมัดระวังในการใช้บริการ AI เช่น DeepSeek และ ChatGPT ในที่ทำงาน ขณะที่บริษัท Korea Hydro & Nuclear Power ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ เปิดเผยว่าได้บล็อกการใช้บริการ AI รวมถึง DeepSeek ตั้งแต่ต้นเดือนก.พ. ขณะที่กระทรวงกลาโหมก็ได้บล็อกการเข้าถึง DeepSeek บนคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในงานทางการทหารเช่นกัน
*** ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวโทษปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างต่อเนื่อง มากกว่าความต้องการที่ซบเซา ว่าเป็นสาเหตุหลักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งอาจใช้เป็นเหตุผลสนับสนุนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยความคิดเห็นดังกล่าว ปรากฏออกมาจากธนาคารกลางญี่ปุ่นบ่อยขึ้น ภายหลังองค์กรโรงงาน โรงแรม ไปจนถึงร้านอาหาร ธุรกิจในญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาในการดำเนินงานเต็มศักยภาพ ไม่ใช่เพราะขาดลูกค้า แต่เป็นเพราะไม่สามารถหาคนงานได้ โดยนักวิเคราะห์และผู้กำหนดนโยบายกล่าวว่า แม้ว่าตลาดแรงงานที่ตึงตัวจะไม่ใช่แนวโน้มใหม่ แต่ความกังวลที่ชัดเจนขึ้นของ BOJ เกี่ยวกับแรงกดดันด้านค่าจ้างและเงินเฟ้อ หมายความว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีแนวโน้มที่จะมองข้ามความอ่อนแอทางเศรษฐกิจเมื่อพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
*** การใช้จ่ายของครัวเรือนญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค. เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก โดยข้อมูลจากกระทรวงกิจการภายใน แสดงให้เห็นว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% เมื่อปรับตามฤดูกาล
แนวโน้มของการบริโภคและค่าจ้าง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังติดตาม เพื่อประเมินความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและพิจารณาความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
*** OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT กล่าวว่า กำลังพิจารณารัฐต่าง ๆ ในสหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์สำหรับโครงการ Stargate ขนาดใหญ่ โดยมองว่าโครงการนี้ เป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับสหรัฐฯ ที่จะเอาชนะจีนในการแข่งขัน AI ระดับโลก หลังเมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเปิดตัวโครงการ Stargate ซึ่งเป็นการลงทุนภาคเอกชนมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยได้รับเงินทุนจาก SoftBank, OpenAI และ Oracle โดยบริษัทเหล่านี้ รวมถึงผู้ให้การสนับสนุนด้านทุนรายอื่นของ Stargate ได้ให้คำมั่นที่จะลงทุน 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
*** หุ้นของ Amazon.com ร่วงลงมากถึง 5% ในการซื้อขายหลังปิดตลาดเนื่องจากความอ่อนแอของธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้ง และแนวโน้มรายได้และกำไรไตรมาสแรกที่ต่ำกว่าคาดการณ์ หลังบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทหายไปประมาณ 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Amazon คาดว่าอัตราการใช้จ่ายด้าน เงินลงทุน (CapEx) ในปีนี้จะอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาส 4 ของปีก่อน ซึ่งบริษัทใช้จ่ายไป 2.63 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Amazon ได้เพิ่มการลงทุนอย่างมากเพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
*** Apple Inc. เตรียมเปิดตัว iPhone SE รุ่นใหม่ในเร็ว ๆ นี้ โดยจะเป็นการปรับปรุงรุ่นราคาประหยัดให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการเติบโตของยอดขายและดึงดูดผู้บริโภคให้เปลี่ยนใจจากแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่น โดยคาดว่าจะเปิดตัวอุปกรณ์ดังกล่าวอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนก.พ.นี้ ซึ่งคาดว่า Apple จะไม่จัดงานเปิดตัวแต่จะเลือกเปิดตัวผ่านเว็บไซต์แทน

|