สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (22 มิ.ย.) ที่ระดับ 30,483.13 จุด ลดลง 47.12 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับ 3,759.89 จุด ลดลง 4.90 จุด หรือ -0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับ 11,053.08 จุด ลดลง 16.22 จุด หรือ -0.15%
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเผชิญกับแรงกดดัน หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ขึ้นแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯในรอบครึ่งปี ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา ว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อของประเทศชะลอตัว ซึ่งเฟดพร้อมใช้เครื่องมือการเงินที่จำเป็น เพื่อบรรลุเป้าหมายให้เร็วที่สุด โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคาให้กับประชาชนและภาคธุรกิจของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นายพาวเวล ยอมรับว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปและเร็วเกินไปนั้น อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอย แม้คำตอบดังกล่าวจะไม่ใช่สิ่งที่เฟดต้องการก็ตาม
จากการแถลงของนายพาวเวล ในครั้งนี้ ได้ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับลดลง โดยราคาหุ้น เชฟรอน ลดลง 4.35% หุ้นโคโคโน่ ฟิลลิปส์ ลดลง 5.7% และราคาหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 4.35% เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี หลังหุ้นแอปเปิ้ล ลดลง 0.38% หุ้นอินเทล ลดลง 0.93% และหุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.24%
ทั้งนี้ นักลงทุนยังต้องจับตาการแถลงของนายพาวเวล ที่มีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในในช่วงบ่ายของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น (23 มิ.ย.)
|