สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยตัวเลขการส่งออกสินค้าประจำเดือนมิ.ย.มีมูลค่า 8.6 แสนล้านเยน (980 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 19.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีตัวเลขนำเข้าอยู่ที่ 1.001 ล้านล้านเยน หรือเพิ่มขึ้น 46.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นเงิน 1.39 ล้านล้านเยน และนับเป็นการขาดดุลฯ ครั้งแรกในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่เดือน ม.ค.
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนมิ.ย.นั้น เนื่องจากญี่ปุ่นมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าประเภทพลังงานน้ำมัน และ ถ่านหิน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับของปีที่แล้ว (2021) 49% อีกทั้งผลจากการอ่อนค่าลงของค่าเงินเยน และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ที่ผลักดันให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
ขณะที่การส่งออกของญี่ปุ่นกลับไม่ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้ยอดการผลิตสินค้าในประเทศลดลง รวมถึงกลุ่มผู้ส่งออกได้ทยอยย้ายฐานผลิตออกจากญี่ปุ่นเพื่อลดต้นทุนการผลิตและส่งออกสินค้า
ทั้งนี้ ข้อมูลบัญชีเดินสะพัดสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นมาจากการลงทุนในพอร์ตหุ้นและการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งช่วยชดเชยการขาดดุลการค้าได้
|