สำนักข่าวรรอยเตอร์ รายงานวันนี้(17มี.ค.)ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดสูงในวานนี้(16มี.ค.)จากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ของหุ้นทางการเงิน ช่วยให้ดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง หลังธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ เข้ามาช่วยเหลือธนาคาร First Republic ที่กำลังมีปัญหา ช่วยคลายกังวลวิกฤตลุกลาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 371.98 จุด หรือ 1.17% ปิดที่ 32,246.55 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 68.35 จุด หรือ 1.76% ปิดที่ 3,960.28 จุด และดัชนีแนสแดค ปิดเพิ่มขึ้น 283.23 จุด หรือ 2.48% ปิดที่ 11,717.28 จุด โดยภาคส่วนเทคโนโลยี ก็มีส่วนช่วยในการเพิ่มขึ้นของดัชนี ดันดัชนีแนสแดค ให้แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
ในวันพฤหัสบดี (16 มี.ค.) ธนาคารกลางยุโรปขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่ได้รับผลกระทบจากความกังวลวิกฤตภาคธนาคาร
อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินต่างๆ รวมถึง JP Morgan Chase & Coและ Morgan Stanley ยืนยันรายงานก่อนหน้านี้ว่า พวกเขาจะให้ความช่วยเหลือทางการเงิน แก่ธนาคาร First Republic สูงสุด 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของธนาคาร หุ้นของ JP Morgan และ Morgan Stanley ดีดตัวเพิ่มขึ้น 1.94% และ 1.89% ตามลำดับ ในขณะที่ธนาคาร First Republic เพิ่มขึ้น 9.98%
ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร ทำให้ตลาดหุ้น สั่นคลอนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ นาง Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่า ระบบธนาคารของสหรัฐฯ ยังคงมีเสถียรภาพ และชาวอเมริกันสามารถรู้สึกมั่นใจว่าเงินฝากของพวกเขาจะยังคงปลอดภัย
ขณะเดียวกัน หุ้นของธนาคารเครดิต สวิส (Credit Suisse) ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ขยับขึ้นเช่นกัน หลังได้รับเงินช่วยเหลือจากธนาคารกลางสวิส จำนวน 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเสริมสภาพคล่องและความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ขณะที่ ข้อมูลแสดงจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นคำร้องใหม่เพื่อขอรับสวัสดิการการว่างงาน ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจโน้มน้าวให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยคาดว่าเฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนนี้
|