efinancethai

ข่าวหุ้นล่าสุด

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568

 

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -6 ก.พ. 68 8:26: น.

 

*** สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI)  ปิดที่ 71.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.67 ดอลลาร์ หรือ 2.3%

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะลเหนือ ปิดที่ 74.61 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.59 ดอลลาร์ หรือ 2.09%

 

ราคาน้ำมันร่วงลงในวันพุธ เนื่องมีรายงานสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของสหรัฐฯ ส่งบ่งชี้อุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอลง ขณะเดียวกัน ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ทำให้เกิดความกลัวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง

 

*** การแสดงความเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้ชาวปาเลสไตน์ย้ายออกจากฉนวนกาซา และนำพื้นที่ไปพัฒนาเป็นรีสอร์ทริมชายหาดระดับโลก ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ ทำให้แนวคิดที่จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของทรัมป์ เคยเสนอเมื่อปีที่แล้ว ถูกนำมาปัดฝุ่นอีกครั้ง ขณะที่นักวิจารณ์จากฝั่งตะวันตก ระบุว่า แนวคิดดังกล่าวเท่ากับเป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ

 

*** กลุ่มผู้ค้าปลีกออนไลน์ในจีนออกมาเตือนว่า การระงับพัสดุนำเข้าของจากจีนและฮ่องกงมายังอเมริกาเหนือ จะสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อธุรกิจในอเมริกาเหนือ ซึ่งอาจส่งผลให้โรงงานที่ทำกำไรได้น้อยอยู่แล้วต้องปิดตัวลง และยังส่งผลให้ผู้ซื้อต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นด้วย โดยการออกมาเตือนในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ไปรษณีย์สหรัฐฯ ระงับพัสดุขาเข้าจากจีนและฮ่องกง ซึ่งทำให้ผู้ค้าปลีกออนไลน์ในจีนผ่านแพลตฟอร์ม Shein และ Temu ของ PDD Holdings เกิดความยุ่งยากวุ่นวาย

 

*** หน่วยงานกำกับดูแลการผูกขาดของจีนกำลังเตรียมสอบสวนการผูกขาดตลาดของ Apple ในด้านนโยบายและค่าธรรมเนียมที่ Apple เรียกเก็บจากผู้พัฒนาแอป ซึ่งถือเป็นมาตรการล่าสุดที่จีนตอบโต้สหรัฐฯ ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจ โดยแหล่งข่าวระบุว่า หน่วยงานกำลังตรวจสอบนโยบายของ Apple ซึ่งรวมถึงการตัดลดค่าใช้จ่ายในแอปมากถึง 30% และการห้ามใช้บริการและร้านค้าสำหรับการชำระเงินจากภายนอก โดยเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานได้พูดคุยกับผู้บริหารของ Apple และผู้พัฒนาแอปตั้งแต่ปีที่แล้ว

 

*** SoftBank Group กำลังเข้าสู่การเจรจาในช่วงท้าย เพื่อซื้อกิจการ Ampere Computing ซึ่งเป็นผู้ออกแบบชิป โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า SoftBank และ Arm Holdings บริษัทผู้ออกแบบชิป ซึ่ง SoftBank เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการ Ampere โดยคาดว่า ข้อตกลงดังกล่าวอาจดันมูลค่า Ampere Computing ขึ้นไปอยู่ที่ราว 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (รวมหนี้สิน) โดยคาดว่าจะประกาศการทำธุรกรรมดังกล่าวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

 

*** ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายรอบปัจจุบัน ในวันที่ 5-7 ก.พ. เนื่องจากแนวโน้มเงินเฟ้อผ่อนคลายลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้ธนาคารกลางสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาได้ แม้ว่าค่าเงินรูปีจะอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ก็ตาม

 

 

*** บรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมาแสดงความกังวลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จากความไม่แน่นอนในมาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศออกไปเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีศุลกากรจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน และอาจรวมถึงสหภาพยุโรปด้วย พร้อมย้ำถึงผลกระทบต่อเงินเฟ้อ ซึ่งหากมีสัญญาณบ่งชี้ที่ระบุว่าภาษีศุลกากรกำลังสร้างแรงกดดันต่อราคาในระยะยาว อาจทำให้เฟดต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้สูงขึ้นเป็นเวลานานขึ้น โดยออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวในสุนทรพจน์ในงานสัมมนาเกี่ยวกับรถยนต์ ที่เมืองดีทรอยต์ ระบุถึงภัยคุกคามต่อห่วงโซ่อุปทานหลยด้าน ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษีศุลกากรและความเสี่ยงต่อสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น

 

*** ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 24.7% สู่ระดับ 9.84 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. 2024 สูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2022 และสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 9.66 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 7.89 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. 2024

 

*** ความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในการกำหนดอัตราภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเติม 10% แม้จะส่งผลกระทบต่อรถยนต์ของสหรัฐฯ ไม่กี่ราย แต่จะกระทบต่อชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้บริโภคต้องแบกรับราคารถยนต์ที่อยู่แล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าด้านการขนส่งจากประเทศจีนจากประมาณ 1.54  - 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ในแต่ละปี ซึ่งรวมถึงชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์เสริมสำหรับยานพาหนะและรถแทรกเตอร์ มูลค่า 9 พัน -  1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ตามที่คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริการะบุ

 

*** สก็อตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนการกู้ยืม โดยพิจารณาจากผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี มากกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นซึ่งเป็นเกณฑ์อ้างอิงของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยเบสเซนท์ให้สัมภาษณ์กับ Fox Business เมื่อวันพุธ หลังสื่อถามว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้อัตราดอกเบี้ยลดลงหรือไม่ ขณะที่เบสเซนท์ไม่ได้เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดอัตราดอกเบี้ย พร้อมย้ำมุมมองของตนว่าการเพิ่มอุปทานพลังงานจะช่วยลดอัตราเงินเฟ้อ สำหรับชนชั้นแรงงานชาวอเมริกัน “องค์ประกอบด้านพลังงานเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนที่สุดสำหรับความคาดหวังเงินเฟ้อในระยะยาว”

 

 




รายงาน    Supak Hopuengju 
เรียบเรียง  Supak Hopuengju 
                อีเมล์. [email protected]
แบบสอบถามความพึงพอใจ









ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

LATEST NEWS

ข่าวที่เกี่ยวข้องล่าสุด

Refresh

ดูข่าวทั้งหมด

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh