สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (4 ส.ค.) ที่ระดับ 32,726.82 จุด ลดลง 85.68 จุด หรือ -0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับ 4,151.94 จุด ลดลง 3.23 จุด หรือ -0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับ 12,720.58 จุด เพิ่มขึ้น 52.42 จุด หรือ +0.41%
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดในแดนลบ นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบสัญญาเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลงต่ำกว่าระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่ในภาวะถดถอยระยะยาว ส่งผลให้ราคาหุ้นของ เชฟรอน ลดลง 2.72% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 4.21% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 4.08%
อีกหนึ่งปัจจัย คือ นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อจับตาดูตัวเลขตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯประจำเดือน ก.ค.ที่จะมีขึ้นในช่วงเช้าของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 258,000 ราย ต่ำกว่าตัวเลขในเดือนมิ.ย.ซึ่งอยู่ที่ 372,000 ราย และคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานในเดือน ก.ค.จะอยู่ที่ระดับ 3.6%
อย่างไรก็ตาม หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี เพิ่มขึ้นหลังนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเพื่อทำกำไร โดยราคาหุ้นของ เมตา แพลทฟอร์มส์ เพิ่มขึ้น 1.05% หุ้นแอมะซอน เพิ่มขึ้น 2.19% และหุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.40%
ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่น่าสนใจ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว (25 - 31 ก.ค.) ที่ระดับ 260,000 ราย สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
|