สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นิสสัน มอเตอร์ เริ่มมองหาพันธมิตรรายใหม่ ขณะเตรียมยุติการเจรจาจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกับฮอนด้า มอเตอร์ ขณะที่ราคาหุ้นของนิสสันพุ่งขึ้น 8.7% ในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ที่กรุงโตเกียว
แหล่งข่าวระบุว่า พันธมิตรรายใหม่นั้นควรจะมาจากภาคเทคโนโลยี ซึ่งอยู่ในสหรัฐฯ แม้ว่ายอดขายทั่วโลกของนิสสันจะชะลอตัวลง แต่ตลาดอเมริกาเหนือยังคงเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดสำหรับนิสสัน ขณะที่การเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าและระบบอัตโนมัติที่เพิ่มมากขึ้น เป็นตัวเร่งให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างมองหาพันธมิตรในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง
ขณะที่โฆษกของนิสสัน เผยว่า รายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจากับฮอนด้า น่าจะประกาศตามแผนราวกลางเดือนก.พ.นี้ โดยปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติม

การถอนตัวออกจากกความร่วมมือกับฮอนด้าถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่สำหรับนิสสัน ซึ่งเผชิญกับวิกฤตมานานหลายปี นอกจากนี้ รถยนต์ที่ทำตลาดมานานและตกรุ่นยังบีบให้บริษัทต้องลดราคาลงมามาก จนกระทบกำไรของบริษัท โดยนิสสันมีกำหนดรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ในสัปดาห์หน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทระบุว่า รายได้สุทธิลดลง 94% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 และต้องเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คน รวมถึงลดกำลังการผลิตลง 1 ใน 5 จากสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบันจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับนิสสันในการหาพันธมิตร
โดยวานนี้ (5 ก.พ.) ทั้งนิสสันและฮอนด้าได้ยืนยันแล้วว่า จะยังคงหารือถึงทางเลือกต่าง ๆ รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะยุติการเจรจาควบรวมกิจการ โดยฮอนด้าได้เสนอแผนซื้อกิจการนิสสันมาเป็นบริษัทในเครือเต็มตัว ขณะที่นิสสันคัดค้านอย่างหนัก นอกจากนี้ มูลค่าการลงทุนยังเป็นประเด็นที่ทำให้การเจราจาไม่ลงตัว ตามรายงานจากแหล่งข่าว
ฮอนด้า ยังกำหนดให้การปรับโครงสร้างการดำเนินงานของนิสสันเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นในการควบรวมกิจการ ซึ่งนอกจากการลดจำนวนพนักงานและลดกำลังการผลิตแล้ว นิสสันไม่ได้ดำเนินการอะไรมาก รวมถึงไม่มีแผนที่จะปิดโรงงาน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ฮอนด้า
อย่างไรก็ดี การยุติการเจรจากับฮอนด้านั้น จะไม่ส่งผลให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจ่ายค่ายกเลิกการทำข้อตกลง ซึ่งมีมูลค่าถึง 100,000
ที่มา Bloomberg

|