สำนักข่าว CNBC รายงานว่านักเศรษฐศาสตร์จาก สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กล่าวเตือนว่าเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวมากขึ้นในอนาคต หากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศยังคงสูญเสียความเชื่อมั่น หลังบริษัทอสังหาฯ หลายแห่งเผชิญกับปัญหาภาระหนี้ และต้องยอมปรับโครงสร้างหนี้เพราะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเส้นตายที่กำหนดไว้
Shuang Ding หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก กล่าวว่า รัฐบาลจีนได้เริ่มการจำกัดสภาพคล่องของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ ด้วยการใช้มาตรการควบคุมหนี้ ส่งผลให้บริษัทหลายแห่งเผชิญกับปัญหาภาระหนี้และทำให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงักไป ซึ่งนำมาสู่การคว่ำบาตรการจำนองบ้าน ส่งผลให้ยอดขายบ้านในปีนี้ลดลง และกระหทบโดยตรงกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ
ดังนั้นากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข้อย่างเหมาะสม ก็จะส่งผลกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรวมถึงงบดุลของรัฐบาล งบดุลของธนาคาร และภาคครัวเรือน เนื่องจากมูลค่าสินทรัพย์ภายในประเทศ ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเมืองที่มีความยากจนสูง และเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจอสังหาฯ ในประเทศขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ธนาคารพาณิชย์ของจีนกำลังเผชิญกับการปัญหาการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้จำนอง หลังผู้ซื้อบ้านใน 22 เมืองของจีนปฎิเสธที่จะชำระหนี้ดอกเบี้ยเงินจำนองของธนาคารพาณิชย์มากกว่า 90 แห่ง ให้กับโครงการบ้านที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ซึ่งอาจทำให้ธนาคารพาณิชย์ของจีน เผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เป็นวงเงิน 3.5 แสนล้านดอลลาร์ แม้รัฐบาลจีนจะจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือบริษัทอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศเป็นวงเงิน 3 แสนล้านหยวนก็ตาม
|