ผู้สื่อข่าว "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" รายงานว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในช่วงปรับฐาน หลังถูกกดดันจากการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ในงวดไตรมาส 4/65 ที่บางบริษัทออกมาไม่สดใสนัก ประกอบกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกมาหลายวันติดต่อกัน ซึ่งส่งผลให้นักส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าลงทุนและรอดูสถานการณ์ไปก่อน อย่างไรก็ตามท่ามกลางสถานการณ์ตลาดหุ้นที่ผันผวนและยังไม่ความชัดเจน ก็มีนักวิเคราะห์หลายสำนักแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมหุ้น ในช่วงตลาดปรับฐาน เพราะอาจเป็นโอกาสทำกำไรในระยะถัดไปได้
*** บล.ยูโอบี เคย์เฮียน คาดหุ้นไทยส่อปรับฐานราว 1-2 สัปดาห์ เหตุต่างชาติเทขาย-กังวลงบบจ.
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่าประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทนช่วงนี้ยังอยู่ในสภาวะของการปรับฐาน เนื่องจากการปรับพอร์ตลงทุนของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ หลังจากที่ช่วงก่อนหน้านี้ซื้อสุทธิมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นที่มีการตอบรับประเด็นเชิงบวกจากการเปิดเมืองของประเทศจีนไปมากแล้ว รวมถึงความวิตกกังวลต่อการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ในงวดไตรมาส 4/65 และอาจมีการปรับประมาณการของนักวิเคราะห์ จึงทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะปรับพอร์ตการลงทุนในช่วงนี้เพื่อสะท้อนสภาพปัจจุบันมากขึ้น
ทั้งนี้เชื่อว่าการปรับฐานส่วนหนึ่งมาจากความวิตกกังวลต่อการประกาศงบบจ. จึงมองว่าหากตลาดจะผ่อนคลายได้คงต้องรอให้การประกาศงบเสร็จสิ้นก่อนหรือใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ พร้อมคาดว่าตลาดหุ้นน่าจะเริ่มพลิกกลับมาผ่อนคลายมากขึ้นได้ในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้
*** ชู 9 หุ้นเด่น แนะทยอยสะสมช่วงตลาดย่อตัว
ขณะที่สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ คาดว่าตลาดอาจจะผันผวนจากการปรับพอร์ตของต่างชาติและการรายงานงบรายตัวในระยะสั้น จึงแนะนำ 9 หุ้นเด่นที่คาดว่าราคาหุ้นยัง Laggard และอยู่ในกลุ่มตรีมเปิดเมืองที่ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นน้อย รวมถึงเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลดี อาทิ BJC,MAKRO, MAJOR,PTTGC, TIDLOR, AMANAH,AP,ASW และ SAMART พร้อมแนะนำทยอยซื้อสะสมช่วงตลาดปรับตัวลดลง
*** บล.เอเซีย พลัส คาดวอลุ่มฯตลาดหาย เหตุนลท.รอดูประกาศงบออกมาแย่กว่าคาด
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงการรอความชัดเจนของการประกาศงบงวดไตรมาส 4/65 ซึ่งอาจลากยาวไปถึงช่วงปลายเดือนก.พ.นี้ โดยผลประกอบการของบริษัทที่ทยอยประกาศงบออกมาแล้วพบว่าส่วนใหญ่ออกมาไม่ดีนัก ซึ่งกดดันให้ดัชนีฯปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดในช่วงวันที่ผ่านมา ประกอบกับแรงขายของฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่ไหลออกมาติดต่อกันเกือบทุกวัน รวมถึงสถาบันในประเทศยังไม่มีท่าทีที่จะซื้อกลับ จึงทำให้ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นได้ยากและอยู่ในสภาวะซึมลง
อย่างไรก็ตามคาดหวังหลังจากนี้ตลาดน่าจะทยอยปรับตัวดีขึ้นได้ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ยังรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับฐานที่กระโดดสูงในช่วงเดือนก.พ.ปีก่อน หลังจากเป็นช่วงเริ่มต้นของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
*** แนะเลือกหุ้นปันผลสูง-ปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ทั้งนี้สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนั้น มองว่าช่วงที่ตลาดหุ้นย่อตัวเป็นจังหวะทยอยซื้อสะสมหุ้นได้ โดยแนะนำเลือกหุ้น 2 ตรีมหลักๆ ได้แก่ 1.หุ้นที่ผันผวนต่ำและจ่ายปันผลสูง อาทิ ADVANC และ AP,2.หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น BTG และ PTTGC
*** บล.โนมูระ พัฒนสิน ชูหุ้น Defensive-แนวโน้มงบออกมาดี
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่ามองภาพตลาดน่าจะอยู่ในช่วงติดตามทิศทางผลประกอบการบจ.ในประเทศ ซึ่งในส่วน SET ล่าสุดเริ่มเห็นระดับกำไรแย่กว่าคาดดีขึ้น ขณะที่กลุ่มที่งบต่ำกว่าคาด ส่วนใหญ่เกิดจากต้นทุนอยู่ในช่วงรอยต่อ แต่ในปัจจุบันที่ต้นทุนต่างๆค่อยๆลดลงและระยะถัดไปที่จะเริ่มเข้าสู่ช่วงรายงานกำไรกลุ่มอิงเศรษฐกิจภายในที่คาดสดใสต่อเนื่อง ประกอบกับ MSCI เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย จึงเชื่อว่ายังลุ้น SET ฟื้นตัวได้ และภาพรวมยังคงคาด SET Index จะเดินหน้าสู่เป้าหมายปีนี้ที่รดับ 1,800 จุด
ขณะที่หุ้นที่แนะนำให้เลือกลงทุนในช่วงนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.หุ้น Defensive ที่ราคาไม่แพงและจ่ายปันผลสูง ได้แก่ ADVANC,AP และ2.หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/65 และแนวโน้มงบปี 66 จะออกมาดี ได้แก่ CRC และ GULF
เปิด 14 หุ้นน่าสะสม ช่วง SET ปรับฐาน
โบรกเกอร์ |
แนะนำหุ้น |
ราคาเป้าหมาย
(บ./หุ้น) |
อัพไซด์
(%) |
เอเซีย พลัส
|
ADVANC |
243 |
21% |
AP |
15.5 |
31% |
BTG |
48 |
47% |
PTTGC |
56 |
10% |
ยูโอบี เคย์เฮียน
|
BJC |
44 |
13% |
MAKRO |
48 |
15% |
MAJOR |
24 |
30% |
PTTGC |
62 |
22% |
TIDLOR |
36 |
22% |
AMANAH |
4.8 |
21% |
AP |
15 |
27% |
ASW |
11 |
26% |
SAMART |
8 |
56% |
โนมูระ พัฒนสิน
|
ADVANC |
252 |
26% |
AP |
15 |
27% |
CRC |
50 |
9.9% |
GULF |
55 |
3.3% |