ความเชื่อมั่นไฮยีลด์บอนด์หด นักลงทุนชะลอซื้อ ชุดใหม่ขายได้แค่ 70-80% อาจกระทบกลุ่มโรลโอเวอร์ พบปี 67 จ่อครบดีลเฉียดแสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นของ บจ.ถึง 45 บริษัท มูลค่า 7.1 หมื่นล้านบาท จับตากลุ่มเสี่ยงสูง หนี้สูง-ผลประกอบการแย่-สภาพคล่องฝืด
*** ไฮยีลด์บอนด์จ่อครบกำหนดปี 67 เฉียดแสนลบ.
"อริยา ติรณะประกิจ" รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า ปี 2567 จะมีหุ้นกู้ครบกำหนดรวมทั้งสิ้น 8.9 แสนล้านบาท โดยประมาณ 90% เป็นหุ้นกู้ที่มีความเสี่ยงต่ำระดับ Investment Grade หรือมีอันดับเครดิตเรทติ้งตั้งแต่ BBB- ขึ้นไป คิดเป็นมูลค่ารวม 7.9 แสนล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นหุ้นกู้ที่มีเรทติ้ง A- ขึ้นไปถึง 6.9 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกันมีหุ้นกู้กลุ่ม Non-Investment Grade (เครดิตเรทติ้งตั้งแต่ BB+ ลงมา) หรือเรียกอีกอย่างว่า High Yield Bond หรือหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนสูง และมีความเสี่ยงสูงเช่นกัน โดยพบว่าปี 67 จะครบกำหนดประมาณ 9.96 แสนล้านบาท คิดเป็นราว 10% ของหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดทั้งหมดในระบบ
ทั้งนี้ต้องติดตามเป็นรายบริษัท เพราะส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา แม้เป็นหุ้นกู้ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือก็ตาม แต่ยังได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุน โดยจะขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัท และชื่อเสียงของผู้บริหาร
*** ปี 66 เบี้ยวหนี้สูงสุดรอบ 3 ปี กระทบหุ้นกู้ขายไม่หมด
"อริยา ติรณะประกิจ" กล่าวต่อไปว่า ปี 66 มีการผิดชำระหนี้หุ้นกู้สูงสุดในรอบ 3 ปี นับจากปี 63 ซึ่งเป็นช่วงโควิด-19 ระบาด โดยถือว่าการผิดนัดชำระของหลายบริษัทกระทบความเชื่อมั่นและอารมณ์ของนักลงทุนต่อตลาดตราสารหนี้อย่างมีนัยสำคัญ
"ตลาดหุ้นกู้เริ่มมีปัญหาความเชื่อมั่น เพราะปีนี้มีการผิดนัดชำระถึง 5 บริษัท มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท แถมไม่ได้กระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมเดียว แต่กระจายหลายเซ็กเตอร์ ทั้งอสังหาริมทรัพย์, มีเดีย, ท่องเที่ยว และสายไฟฟ้า นักลงทุนจึงมีความระมัดระวังมากขึ้น ปัญหาที่ตามมาก็คือการออกหุ้นกู้ใหม่ลดลง การโรลโอเวอร์ทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มไฮยีลด์ แต่เกิดขึ้นในบางบริษัทเท่านั้น ซึ่งต้องดูเป็นราย ๆ ไป เพราะในระบบรวมยังไม่มีปัญหา"
ด้าน "พรอนงค์ บุษราตระกูล" เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มไฮยีลด์บอนด์เริ่มมีปัญหา เพราะขายได้ประมาณ 70 - 80% เท่านั้น เทียบกับกลุ่ม Investment Grade ที่ยังขายได้ระดับ 95 - 100% ซึ่งเกิดจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังมีการผิดนัดชำระหลายบริษัทก่อนหน้านี้
*** จับตา 45 บจ.หุ้นกู้จ่อครบดีลปี 67
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจข้อมูลหุ้นกู้ไฮยีลด์บอนด์ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่กำลังจะครบกำหนดภายในปี 67 พบว่ามีทั้งสิ้น 45 บริษัท มูลค่ารวม 7.1 หมื่นล้านบาท โดยมีถึง 19 บจ.ที่มีมูลค่าหุ้นกู้ใกล้ครบกำหนดเกิน 1,000 ล้านบาท และ 5 บริษัทมีหุ้นกู้ต้องชำระคืนเกิน 5,000 ล้านบาท
ไฮยีลด์บอนด์ 45 บจ.ต่อครบกำหนดปี 67
|
ชื่อย่อหุ้น
|
เครดิตเรทติ้ง
|
จำนวนหุ้นกู้ (ชุด)
|
มูลค่า (ลบ.)
|
ดอกเบี้ย (%)
|
ANAN
|
BB+
|
4
|
7,057
|
4.5 - 5.4
|
PF
|
BB
|
6
|
6,668
|
6.8 - 7.25
|
STARK
|
-
|
3
|
6,585
|
3.8 - 4
|
THAI
|
-
|
5
|
5,840
|
3.55 - 5.58
|
ITD
|
BB+
|
3
|
5,670
|
5 - 5.8
|
GRAND
|
BB-
|
4
|
4,799
|
6.85 - 7.3
|
SINGER
|
BB+
|
2
|
3,000
|
5.75
|
JKN
|
-
|
5
|
2,511
|
6.25 - 7
|
CGD
|
-
|
4
|
2,229
|
7.5 - 7.75
|
SABUY
|
-
|
2
|
2,000
|
6.25
|
A
|
B
|
3
|
1,929
|
6.7 - 7
|
MJD
|
BB
|
4
|
1,867
|
6.8
|
TNITY
|
-
|
11
|
1,608
|
3.4 - 5.5
|
INET
|
-
|
3
|
1,500
|
4.9 - 5.15
|
JCK
|
-
|
3
|
1,442
|
7 - 7.5
|
MK
|
BB+
|
2
|
1,136
|
5.6
|
NVD
|
-
|
2
|
1,115
|
6.4 - 6.8
|
MICRO
|
BB+
|
3
|
1,083
|
5.4 - 5.5
|
RML
|
-
|
5
|
1,012
|
7 - 7.35
|
EP
|
BB+
|
2
|
938
|
5.25 - 6.25
|
CHAYO
|
BB+
|
2
|
889
|
5.25 - 5.7
|
RICHY
|
-
|
2
|
864
|
6.75 - 7.1
|
PSTC
|
-
|
1
|
788
|
6.95
|
NUSA
|
-
|
2
|
750
|
6.5 - 7
|
APCS
|
-
|
2
|
692
|
6 - 6.2
|
AQUA
|
BB+
|
1
|
629
|
5.75
|
ECF
|
BB-
|
2
|
610
|
6.85 - 7.15
|
PLE
|
-
|
1
|
600
|
6.5
|
BEYOND
|
BB
|
1
|
577
|
6.25
|
CI
|
BB
|
1
|
500
|
6.85
|
PROEN
|
-
|
1
|
500
|
6.5
|
SGF
|
-
|
1
|
500
|
6.7
|
CMC
|
-
|
1
|
485
|
7
|
NOVA
|
-
|
1
|
400
|
6.8
|
GLOCON
|
-
|
1
|
300
|
7.5
|
LIT
|
BB-
|
1
|
300
|
7
|
TWZ
|
-
|
1
|
209
|
6.25
|
CWT
|
-
|
1
|
200
|
7.5
|
KUN
|
B
|
1
|
200
|
6.9
|
TCC
|
-
|
1
|
200
|
6.5
|
GCAP
|
-
|
2
|
191
|
7.5 - 7.75
|
SKY
|
-
|
1
|
156
|
6
|
NCH
|
-
|
1
|
150
|
4.85
|
ZIGA
|
-
|
1
|
127
|
6.25
|
PPS
|
-
|
1
|
120
|
7.5
|
ที่มา : ThaiBMA ข้อมูล ณ 19 ธ.ค.66
|
หุ้นกู้ไฮยีลด์บอนด์ของ บจ.ที่ใกล้ครบกำหนดปี 67 ส่วนใหญ่เกินครึ่งไม่มีการจัดอันดับเครดิตเรทติ้ง ซึ่งมีการให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยเฉลี่ย 5.97% สูงสุดถึง 7.75% เลยทีเดียว
กลุ่มที่น่าจับตาก็คือที่มีมูลค่าสูง เช่น ANAN, PF และ ITD และเจ้าเก่าที่มีประวัติการเบี้่ยวคือ THAI และ STARK ซึ่ง 5 บริษัทดังกล่าวมีหุ้นกู้จะครบกำหนดเกิน 5,000 ล้านบาท แถมผลประกอบการยังไม่สู้ดีนัก และมีหนี้สินสูง เงินสดต่ำถึงติดลบ โดยอาจจะมีปัญหาในการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อโรลโอเวอร์
*** จ่อคุมการออกไฮยีลด์บอนด์
"อริยา ติรณะประกิจ" ระบุว่า ThaiBMA ได้เสนอแนวคิดต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในการจัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขที่ผู้ออกจะต้องปฏิบัติสำหรับผู้ออกหุ้นกู้เสี่ยงสูง เพราะตามมาตรฐานต่างประเทศไฮยีลด์บอนด์จะมีกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดกว่าหุ้นกู้ Investment Grade เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ออกจะต้องเอาเงินมาคืนเจ้าหนี้ระหว่างทาง
"ผู้ออกไฮยีลด์บอนด์ จะเป็นบริษัทขนาดกลางขนาดเล็ก ข้อกำหนดเหล่านี้จะต้องเข้มงวด เช่น จะต้องมีข้อจำกัดการก่อหนี้, ข้อจำกัดการจ่ายเงินออกไปจากบริษัท, ข้อจำกัดการขายทรัพย์สิน เป็นต้น ดังนั้นในอนาคตก่อนออกหุ้นกู้ อาจจะต้องมีการจัดทำข้อกำหนดลักษณะนี้ เพื่อให้สามารถไปมอนิเตอร์ในระหว่างทางได้ เบื้องต้นจะเป็นข้อเสนอการจัดทำ และนำไปหารือผู้ร่วมตลาด สำนักงาน ก.ล.ต. และนักกฎหมาย เพื่อนำมาตรฐานจากต่างประเทศมาประยุกต์ใช้ โดยอาจจะเริ่มใช้เป็นแนวทางปฏิบัติก่อนสำหรับผู้ออกไฮยีลด์บอนด์ในปี 67"
ปัจจุบันนี้ผู้ออกหุ้นกู้ไฮยีลด์บอนด์กว่า 99% จะเสนอขายต่อผู้ลงทุนรายใหญ่ (HNW) ประเภทบุคคลธรรมดา และที่ผ่านมาหุ้นกู้ที่มีการผิดนัดชำระหนี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในกลุ่มนี้ ไม่นับกรณีหุ้นกู้ บมจ.การบินไทย (THAI) โดยผู้ถือหุ้นกู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณี บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) และ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) พบว่ามีกว่า 3 พันราย/บริษัท
ด้าน "พรอนงค์ บุษราตระกูล" เสริมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับ ThaiBMA ถึงแนวทางป้องกันที่มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยอาจจะต้องมีข้อกำหนดสิทธิ หรือเงื่อนไข โดยเฉพาะเรื่องหลักประกันให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น ขณะเดียวกันต้องไปเข้มงวดกับผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ คือต้องทำ KYC ที่เข้มขึ้น ต้องจัดกลุ่มลูกค้าที่เข้มข้น ขายให้ถูกฝาถูกตัว เพราะหากไม่ถูกต้องจะไม่ยั่งยืน ส่วนการขายหุ้นกู้ให้นักลงทุนรายย่อย ก็อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางที่มีการเสนอว่าให้ยกระดับเรตติ้งขึ้น เช่น ต้องสูงกว่า investment grade ขึ้นไปอีก อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่ได้ออกมาเป็นรูปธรรม
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นการนำเสนอข้อมูลหุ้นกู้ไฮยีลด์บอนด์ที่ใกล้จะครบกำหนดปี 67 เท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำว่า บจ.เหล่านี้จะผิดชำระหนี้แต่อย่างใด