พบ 11 บจ.แบกหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยเกิน 3 เท่า สูงสุด 21.25 เท่า แถมอัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ต่ำจัด ซ้ำเงินสดจากการดำเนินงาน ณ สิ้นไตรมาส 1/66 ติดลบ

"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยโปรแกรม SETSMART พบว่ามีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) 11 บริษัทที่มีหนี้เงินกู้สูงสุด ในไตรมาส 1/66 คัดกรองจาก 1.บริษัทที่มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้น มากกว่า 3 เท่าขึ้นไป 2.บริษัทที่อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ต่ำกว่า 1 (มาตรฐานต้องมากกว่า 1 ขึ้นไป) และ 3.บริษัทที่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานติดลบ
 

บมจ.สามารถ ดิจิตอล (SDC) มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสูงสุดถึง 21.25 เท่า ขณะที่อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ติดลบ 0.25 ขณะเดียวกันเงินสดจากการดำเนินงาน ณ สิ้นไตรมาส 1/66 ติดลบ 5.12 ล้านบาท

ส่วน บมจ.ทีทีซีแอล (TTCL) เงินสดจากการดำเนินงานติดลบสูงสุด ณ ไตรมาส 1/66 ระดับ 1,055.50 ล้านบาท โดยมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย 4.05 เท่า และอัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้อยู่ที่เพียง 0.05 เท่านั้น

ขณะที่พบว่ามีอีก 4 บริษัทในกลุ่มนี้เงินสดจากการดำเนินงานติดลบมากกว่า 100 ล้านบาท ประกอบด้วย บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) ติดลบ 729.78 ล้านบาท, บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) ติดลบ 561.49 ล้านบาท, บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) ติดลบ 428.79 ล้านบาท ซึ่ง 5 บจ.ดังกล่าว อยู่ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างทั้งหมด โดยมี บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) ซึ่งอยู่ในกลุ่มไอซีที ติดโผเข้าเพิ่มเติม เงินสด ณ ไตรมาส 1/66 ติดลบ 214.94 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บทความนี้เป็นการนำเสนอข้อมูลตามข้อเท็จจริงจาก SETSMART ไม่ได้มีเจตนาชี้นำว่าบริษัทเหล่านี้จะผิดนัดชำระหนี้แต่อย่างใด

หมายเหตุ : อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้น (IBD/E) คำนวณจาก (รวมหนี้สินหมุนเวียน-เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น+หนี้สินระยะยาวสุทธิจากส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี)/ส่วนผู้ถือหุ้น

ขณะที่อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ คำนวณจาก (กำไรหรือขาดทุนก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ต้นทุนทางการเงิน + ค่าเสื่อมราคาและค่าจัดจำหน่าย) (12 เดือน) / (รวมหนี้สินหมุนเวียน - เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น)