efinancethai

ประเด็นร้อน

ลุ้น SET ปี 66 ทะลุ 1,800 จุด พร้อมชี้เป้า 27 หุ้นเด่น

ลุ้น SET ปี 66 ทะลุ 1,800 จุด พร้อมชี้เป้า 27 หุ้นเด่น

7 โบรกเกอร์ มองหุ้นไทยปี 66 ยังดีต่อเนื่อง เหตุเศรษฐกิจในประเทศฟื้นสวนต่างประเทศ ท่องเที่ยว - บริโภคหนุน ให้กรอบ SET ที่ 1,500 - 1,820 จุด ดันกำไรบริษัทจดทะเบียนโต 2 - 11.2% กรอบ 95.8 - 115 บ./หุ้น พร้อมชี้เป้า 27 หุ้นเด่นปี 66 ยก CPALL แจ่มสุด รับอานิสงส์บริโภคฟื้นเต็มที่ ส่วน SHR มีอัพไซด์สูงสุด 37.25% 
 

*** SET ปี 66 ยังมีหลายปัจจัยรอหนุน ลุ้นทะลุ 1,800 จุด
 

"ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ" กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ปี 66 อยู่ในกรอบ 1,500 - 1,820 จุด และกำไรบริษัทจดทะเบียนโดยรวม (EPS) ที่ 109 บาท/หุ้น 

"โมเมนตั้มและตัวเลขเชิงเศรษฐกิจที่ดีขึ้นยังช่วยพยุงต่อนื่องถึงกลางปี 66 จึงคิดว่า 1,820 จุด น่าจะเห็นในครึ่งปีแรก รวมถึงความชัดเจนมากขึ้นของดีล ICT"ชัยพร กล่าว

ทั้งนี้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติคาดว่าจะยังไหลเข้ามาลงทุนมากขึ้น จากเงินบาทยังคาดว่าจะแข็งต่อเนื่อง สะท้อนผ่านภาพในปัจจุบันที่เม็ดเงินต่างชาติเข้ามาลงทุนในหุ้นไทยและตราสารหนี้เพียง 20% เทียบยอดขายสุทธิในช่วง 5 - 7 ปีที่ผ่านมาที่เงินไหลออกไปมาก

ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 66 คาดว่าจะเติบโต 4% จากปี 65 ที่เติบโต 3.2% โดยภาคการบริโภคและท่องเที่ยวที่ยังคงดีต่อเนื่อง แม้ว่าจะเห็นการชะลอตัวลงบ้างของภาคการส่งออก แต่ขณะที่จะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในประเทศ

สำหรับปัจจัยท้าทายปี 66 ต้องจับตาราคาสินค้าโภคภัณฑ์ว่าจะกลับมาสร้างปัญหาอีกหรือไม่ หากจีนมีการเปิดประเทศอย่างเต็มตัวจนดันเงินเฟ้อขึ้นสูงอีกครั้ง ทั้งนี้คาดการณ์ว่า GDP ของจีนในปีหน้าจะเติบโต 5-5.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่สะท้อนการกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มตัว

ด้าน "วิจิตร อารยะพิศิษฐ" ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินกรอบ SET Index ปี 66 ไว้ที่ 1,570 - 1,815 จุด ขณะที่คาดการณ์ EPS ไว้ที่ 110.5 บาท/หุ้น โดยมองว่า หุ้นไทยในช่วงปี 66 ยังดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 66 ที่จะได้ปัจจัยหนุนจารการท่องเที่ยวในประเทศฟื้นตัวต่อเนื่อง

ปัจจัยดังกล่าว จะช่วยหนุนให้ภาคการบริโภคในประเทศฟื้นตัวตามด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ทิศทางเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ขณะที่ช่วงกลางปี (ประมาณเดือน พ.ค.66) คาดการณ์ว่า จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนความเชื่อมั่นของ Fund Flow มากขึ้น จากความคาดหวังการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ ๆ 

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้ทำการรวบรวมสถิติการเลือกตั้ง 5 ครั้งที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 44 - 62) พบว่า จะมีแรงเก็งกำไรในหุ้นไทยล่วงหน้าเสมอ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 3.4% ดังนั้น เมื่อคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน พ.ค.66 จึงคาดว่า จะมีแรงเก็งกำไรหนุน SET Index ตั้งแต่ช่วง ก.พ. - มี.ค. เป็นต้นไป 

โดย สรุป มีนักวิเคราะห์ 7 โบรกเกอร์ ที่ประเมินกรอบ SET Index และ EPS ปี 66 ไว้ดังนี้
 

ตารางคาดการณ์กรอบดัชนี – EPS ปี 66

บล.

กรอบดัชนี (จุด)

EPS (บ.)

%chg YoY

โนมูระฯ

1,550 - 1,820

115

6

บัวหลวง

1,500 - 1,820

109

11.2

เมย์แบงก์ฯ

1,570 - 1,815

110.5

6.7

ยูโอบีฯ

1,580 - 1,790

105

2

ไอร่า

1,620 - 1,760

110

5

ดาโอ

1,600 - 1,756

95.8

8.2

พาย

1,500 - 1,700

103.5

3.5


*** ชี้เป้า 27 หุ้นเด่นปี 66 หุ้นเปิดเมืองยังแรงต่อ
 

อย่างไรก็ตาม เมื่อสำรวจกลยุทธ์การลงทุนปี 66 ของโบรกเกอร์ พบว่า ส่วนใหญ่ยังมองว่า หุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยว และการบริโภคฟื้นตัว ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น Outperform ดัชนีหุ้นไทย ได้ต่อเนื่อง โดยมีหุ้นแนะนำทั้งหมด 27 บริษัท ที่มีอัพไซด์มากกว่า 10% ประกอบด้วย 
 

ชี้เป้า 27 หุ้นเด่นปี 66

บล.

หุ้นแนะนำ

ราคาเหมาะสม (บ.)

%อัพไซด์*

พาย

SHR

5.6

37.25

RATCH

55

29.41

PLANB

9.6

27.15

ADVANC

236

21.96

BBL

171

16.33

WHA

4.54

15.23

ยูโอบีฯ

MINT

44

36.43

VRANDA

10.2

36.00

MAJOR

24

32.60

TIDLOR

37

26.50

ADVANC

244

26.10

CPALL

82

21.03

ดาโอ

NEX

24

31.15

AOT

82

11.22

CENTEL

54

10.55

CRC

46

10.21

โนมูระฯ

AMATA

27

31.07

GPSC

84

16.26

SCGP

64

13.27

CPALL

72

10.14

เมย์แบงก์ฯ

JMT

82.2

23.61

TOP

67.11

19.31

WICE

11.93

16.96

CPALL

79

16.61

AU

12.8

12.28

ไอร่า

CK

29

21.85

STEC

15.5

19.23

SEAFCO

4.2

14.75

GULF

60.5

11.52

EA

105

10.53

*อัพไซด์เทียบราคาปิด 27 ธ.ค.65


27 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นในดัชนี SET100 จำนวน 22 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ติดโผมากสุด จำนวน 5 บริษัท รองลงมา เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวและสันทนาการ และบริการรับเหมาก่อสร้าง ที่ติดโผ จำนวน 3 บริษัท เท่ากัน
 

*** ยก "CPALL"แจ่มสุด ตามบริโภคฟื้นต่อ
 

บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) เป็นหุ้นที่มีนักวิเคราะห์แนะนำตรงกันมากที่สุด 3 แห่ง โดยคาดว่า จะเป็นหุ้นในกลุ่มพาณิชย์ที่ได้ประโยชน์สูงสุด ตามภาคการบริโภคในประเทศยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง

รองลงมา คือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ที่มีนักวิเคราะห์แนะนำตรงกัน 2 แห่ง โดยคาดว่าการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศเต็มปีครั้งแรก นับตั้งแต่มีการพร่ระบาดโควิด-19 ในปี 62 จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานของ ADVANC ในปี 66 ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
 

*** ส่วน "SHR" พบอัพไซด์สูงลิ่ว 37.25%
 

ส่วน บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) เป็นบริษัทที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์สูงสุด 37.25% รองลงมา คือ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 36.43%

ทั้งนี้ มีอีก 4 บริษัท ที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์มากกว่า 30% ประกอบด้วย บมจ.วีรันดา รีสอร์ท (VRANDA) มีอัพไซด์ 36%, บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) มีอัพไซด์ 32.60%, บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) มีอัพไซด์ 31.15% และ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) มีอัพไซด์ 31.07

แบบสอบถามความพึงพอใจ






ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh




LATEST NEWS

ข่าวหุ้นล่าสุด

Refresh

ดูข่าวทั้งหมด