อัปเดท 21 บจ.โดน ตลท.แปะป้าย "C" เหตุส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน พบหน้าใหม่ติดโผปีนี้เพิ่มมา 10 บจ. ส่วนใหญ่งบแย่ขาดทุนต่อเนื่อง ผงะขาดทุนสะสมรวม 6.9 หมื่นล้านบาท รายย่อยกว่า 1.9 แสนรายติดดอยแบบไร้ปันผล เกินครึ่งราคาหุ้นปีนี้รูด 22 - 81% ล่าสุดมี 3 บจ.ส่วนทุนติดลบแล้ว หากสิ้นงบปีแก้ไขไม่ทัน เสี่ยงขาดคุณสมบัติ บจ. และโดนพักการซื้อขาย
*** อัปเดท 21 บจ.ถูกขึ้นเครื่องหมาย "C"
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขึ้นเครื่องหมาย "C" ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ 2 ก.ค.61 เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ลงทุน โดยเป็นการเตือนกรณี บจ.มีเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย ส่วนของผู้ถือหุ้น < 50% ของทุนชำระแล้ว, ศาลรับคำฟ้องล้มละลาย, ศาลรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ, สำนักงาน ก.ล.ต. แจ้งให้บริษัทจัดให้มี Special Audit หรือ แจ้งให้แก้ไขงบการเงิน, หน่วยงานกำกับฯ สั่งแก้ไขฐานะการเงินหรือการดำเนินงาน, ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็น เนื่องจากถูกจำกัดขอบเขตโดยบริษัทจดทะเบียน และ เป็น Cash Company
ทั้งนี้พบว่า ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 21 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนใน SET จำนวน 12 บริษัท และ mai 9 บริษัท โดยทั้งหมดส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว มีเพียง บมจ.สินมั่นคงประกันภัย (SMK) ที่มีสาเหตุเพิ่มเติมคือ ศาลรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ
ขณะที่พบว่ามี 10 บจ.ที่ติดโผเเข้ามาในปีนี้ โดยรายล่าสุดคือ บมจ.วาว แฟคเตอร์ (W) ซึ่งถูกขึ้นเครื่องหมายเมื่อ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันมี 5 บจ.ที่ติดโผมานานสุดตั้งแต่ช่วง ส.ค.61 ได้แก่ บมจ.เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม (NEP), บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น, บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS), บมจ.เอคิว เอสเตท (AQ), บมจ.เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) หรือ NATION
21 บจ.ติดเครื่องหมาย “C”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
วันที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย
|
ส่วนผู้ถือหุ้น (ลบ.)
|
ราคาปิด 14 ธ.ค. (บ.)
|
%chg YTD
|
W
|
16 พ.ย. 65
|
371
|
1.88
|
-60
|
CIG
|
17 ส.ค. 65
|
169
|
0.49
|
-38
|
TRC
|
5 ก.ค. 65
|
301
|
0.28
|
-35
|
PPPM
|
14 มิ.ย. 65
|
582
|
0.13
|
-63
|
SMK*
|
25 พ.ค. 65
|
-30,406
|
4.42
|
-81
|
KC
|
19 พ.ค. 65
|
366
|
0.2
|
11
|
EMC
|
18 พ.ค. 65
|
1,867
|
0.14
|
-48
|
ACAP
|
17 พ.ค. 65
|
-344
|
0.58
|
-53
|
JCKH
|
3 มี.ค. 65
|
104
|
0.13
|
-63
|
WAVE
|
2 มี.ค. 65
|
109
|
0.13
|
-55
|
EFORL
|
17 พ.ย. 64
|
488
|
0.39
|
-81
|
KKC
|
12 พ.ย. 64
|
-85
|
0.32
|
-71
|
DV8
|
17 พ.ค. 64
|
425
|
0.37
|
38
|
TSI
|
17 พ.ย. 63
|
351
|
0.29
|
-22
|
STOWER
|
5 มี.ค. 63
|
1,106
|
0.04
|
-44
|
HYDRO
|
1 มี.ค. 62
|
113
|
1
|
178
|
NATION
|
14 ธ.ค. 61
|
440
|
0.13
|
-30
|
AQ
|
16 ส.ค. 61
|
2,872
|
0.02
|
-28
|
UMS
|
16 ส.ค. 61
|
169
|
1.93
|
53
|
NEWS
|
15 ส.ค. 61
|
1,226
|
0.03
|
-25
|
NEP
|
14 ส.ค. 61
|
620
|
0.27
|
-43
|
“สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” รวบรวมข้อมูล ณ 14 ธ.ค.65
หมายเหตุ : ทุก บจ.ถูกขึ้นเครื่องหมาย “C” ด้วยสาเหตุส่วน ผถห.ต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน
* SMK มีสาเหตุเพิ่มเติม คือ ศาลรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ
|
*** 3 บจ.ส่วนทุนติดลบแล้ว
ล่าสุด ณ งบ 9 เดือนปี 65 มี 3 บจ.ที่ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบแล้ว คือ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย (SMK), บมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) และ บมจ.กุลธรเคอร์บี้ (KKC) โดยหากงบการเงินประจำปี 65 (สิ้นสุด 31 ธ.ค.) ยังไม่สามารถแก้ไขส่วนผู้ถือหุ้นติดลบได้ มีความเสี่ยงที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็น บจ. เข้าข่ายถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และถูกห้ามซื้อขาย (SP) ได้
*** ส่วนใหญ่งบยังขาดทุน
เมื่อสำรวจงบการเงิน บจ.กลุ่มนี้พบว่า ส่วนใหญ่ ณ งวด 9 เดือนปี 65 ยังมีผลขาดทุนต่อเนื่องจากปี 64 โดย บมจ.สินมั่นคงประกันภัย (SMK) ขาดทุนสูงสุดถึง 3.26 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีถึง 13 บริษัทที่ขาดทุนต่อเนื่องมากกว่า 2 ปี
ส่วน บมจ.อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) แม้ ณ งวด 9 เดือนปี 65 จะมีกำไร แต่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อน
อย่างไรก็ตามมี 3 บจ.ที่พลิกมีกำไร ณ งวด 9 เดือนปี 6 จากขาดทุนมาต่อเนื่องมากกว่า 2 ปี ประกอบด้วย บมจ.เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) หรือ NATION, บมจ.พีพี ไพร์ม (PPPM) และ บมจ.เอคิว เอสเตท (AQ)
งบการเงิน บจ.ที่ติดเครื่องหมาย “C”
|
ชื่อย่อหุ้น
|
กำไร 9M/65 (ลบ.)
|
กำไรปี 64 (ลบ.)
|
กำไรปี 63 (ลบ.)
|
ขาดทุนสะสม (ลบ.)
|
ผถห.รายย่อย (ราย)
|
SMK
|
-32,601
|
-4,754
|
757
|
-31,867
|
1,859
|
KKC
|
-561
|
-521
|
-638
|
-3,296
|
3,569
|
ACAP
|
-458
|
-226
|
-355
|
-939
|
2,976
|
W
|
-303
|
-276
|
-239
|
-701
|
3,392
|
JCKH
|
-150
|
-340
|
-142
|
-1,220
|
5,814
|
EMC
|
-122
|
-86
|
59
|
-2,423
|
12,404
|
TRC
|
-97
|
-57
|
-444
|
-913
|
14,198
|
STOWER
|
-78
|
-51
|
-311
|
-2,046
|
16,270
|
CIG
|
-66
|
-142
|
-130
|
-844
|
3,994
|
HYDRO
|
-57
|
-20
|
-74
|
-198
|
4,355
|
NEWS
|
-49
|
97
|
-38
|
-4,478
|
30,402
|
NEP
|
-39
|
-44
|
-24
|
-1,172
|
3,426
|
KC
|
-37
|
-76
|
-103
|
-883
|
2,643
|
WAVE
|
-24
|
-693
|
-201
|
-277
|
5,798
|
TSI
|
-24
|
-60
|
-103
|
-687
|
2,042
|
DV8
|
-17
|
-47
|
1
|
-2,025
|
3,101
|
UMS
|
-5
|
-52
|
-57
|
-869
|
1,377
|
EFORL
|
35
|
812
|
-299
|
-2,076
|
32,666
|
AQ
|
81
|
-495
|
-392
|
-7,337
|
31,734
|
PPPM
|
421
|
-186
|
-330
|
-1,900
|
3,830
|
NATION
|
429
|
-118
|
-148
|
-2,924
|
5,769
|
“สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” รวบรวมข้อมูล ณ 14 ธ.ค.65
|
*** พบขาดทุนสะสมรวมกว่า 6.9 หมื่นลบ. รายย่อย 1.9 แสนรายดอยและไร้ปันผล
ขณะเดียวกันพบว่าทั้ง 21 บริษัทมีผลขาดทุนสะสมตั้งแต่ 198 - 31,867 ล้านบาท รวม 6.9 หมื่นล้านบาท ซึ่ง บจ.ที่มีผลขาดทุนสะสมจะไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ โดย 21 บจ.กลุ่มนี้มีผู้ถือหุ้นรายย่อยรวมกว่า 1.9 แสนราย
นอกจากนี้เมื่อสำรวจราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีถึง 14 ธ.ค.65 (YTD) มีเพียง 4 บจ.เท่านั้นที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ที่เหลือติดลบตั้งแต่ 22 - 81%