เชื่อหรือไม่ ? ปีนี้ นักลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนถือครองหุ้นไทยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนทะลุ 30% ไปแล้ว แม้ปีนี้จะขายสุทธิไปกว่า 1.56 แสนลบ. ด้าน ตลท.ชี้สัดส่วนการถือครองหุ้นของนักลงทุนแต่ละประเภทใกล้เคียงกัน แถมรายย่อยเข้าใจสิทธิประโยชน์การลงทุนมากขึ้น สะท้อนจากการเลือกถือครองหลักทรัพย์ได้สิทธิประโยชน์ครบถ้วน !
ข้อมูลการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นปีถึง 3 ต.ค.66 (YTD) พบว่า มีการขายสุทธิ 8 เดือนติดต่อกัน มูลค่าสุทธิ 1.56 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยสถิติ ณ ส.ค.66 นักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นไทย 30.50% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีสัดส่วนถือครอง 26.84% ขณะเดียวกันการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติปีนี้คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนโควิดที่สัดส่วนการซื้อขายรวมไม่ถึง 30%
นอกจากนี้ เมื่อนับรวมการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างประเทศ และ NVDR ณ ส.ค.66 อยู่ในระดับ 30.61% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีสัดส่วนถือครอง 26.97%
ขณะที่ ภาพรวมการถือครองหุ้นไทย แยกตามประเภทนักลงทุน ถือว่า มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยนักลงทุนต่างประเทศยังอยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่ที่ระดับ 30.50% ส่วนนักลงทุนในประเทศ อยู่ที่ระดับ 47.26% แยกเป็นนักลงทุนรายย่อย 27.70%, นิติบุคคลอื่น ๆ 19.56%
ด้าน ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ อยู่ที่ระดับ 21.99% และบริษัทหลักทรัพย์ ทั้งที่เป็นสมาชิกและไม่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ที่ระดับ 0.25%
ทั้งนี้ จากการศึกษาข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ นอกจากนักลงทุนต่างประเทศจะมีสัดส่วนถือครองหุ้นไทยเพิ่มขึ้นแล้ว อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันตามประเภทหลักทรัพย์มากขึ้น สังเกตได้จากการเลือกถือครองหุ้นตรงตามสิทธิ ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นครบถ้วน