SET หลังหยุดสงกรานต์ 3 วันล่าสุดดิ่ง 65 จุด รับสงครามอิหร่าน - อิสราเอลปะทุ แถมแนวโน้มดอกเบี้ยยังทรงตัวสูงนานกว่าคาด โบรกฯมองหุ้นไทยรอบนี้อาจลงลึกสุดถึง 1,215 จุด หากความขัดเเย้งตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น แต่มองระยะสั้น SET มีลุ้นรีบาวด์ได้ เหตุเข้าสู่ช่วงประกาศงบ Q1/67 คาดส่วนใหญ่ผลงานแจ่ม กูรูชี้โอกาสซื้อสะสมระยะกลาง - ยาว มาถึงแล้ว แนะหุ้นงบแกร่ง
*** SET หลังหยุดสงกรานต์ดิ่งแรง 65 จุด
ตลาดหุ้นไทย (SET) เปิดซื้อ - ขายหลังหยุดวันสงกรานต์ 3 วันทำการล่าสุด ดัชนี (SET Index) ปรับตัวลงทุกวันรวม 65.11 จุด หรือ -4.66% เนื่องจากได้รับแรงกดดันความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังเกิดการโจมตีทางทหารระหว่างอิหร่าน และอิสราเอลขึ้น
อีกทั้ง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังมีท่าทีคงดอกเบี้ยนโยบายยาวนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่า จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยลงครั้งแรกช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) สหรัฐฯกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ทำให้สินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้นยังเผชิญกับแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง
*** โบรกฯมอง SET รอบนี้ลงได้ลึกสุด 1,215 จุด
"กิจพณ ไพรไพศาลกิจ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุว่า สถานการณ์ SET Index ณ ปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวังต่อแรงขายทำกำไร และปัจจัยที่จะมาจากภายนอกมากขึ้น
โดยเฉพาะการโยกย้ายเงินลงทุนไปยังตราสารหนี้ ที่จะสร้างความผันผวนในช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค.นี้ ซึ่งจากการประเมินความเคลื่อนไหวของ SET Index ที่หลุดระดับ 1,360 - 1,380 จุด มาแล้ว ทำให้ดัชนีหุ้นไทยมีดาวน์ไซด์ที่จะปรับตัวลงไปลึกสุด ที่บริเวณ 1,320 จุด ได้เช่นกัน
ด้าน "ณัฐพล คำถาเครือ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า SET Index ที่ปรับตัวลงมารอบนี้ มีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,320 - 1,330 จุด ซึ่งหากดัชนีหลุดระดับดังกล่าว ก็มีแนวโน้มที่ SET Index จะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับใหม่ที่บริเวณ 1,300 จุด ได้เหมือนกัน
ขณะที่ "เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส จำกัด เสริมว่า SET ได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงในอิหร่าน ซึ่งกระทบต่อราคาน้ำมัน, เงินเฟ้อ และ ดอกเบี้ย โดยตลาดหุ้นไทยเดิมคาดกรอบล่างไว้ที่ 1,350 จุด ซึ่งไม่ควรจะหลุดในระดับดังกล่าว แต่ตอนนี้ประเมินแนวรับใหม่ไว้ที่ 1,330 จุด
สอดคล้องกับ "ณรงค์เดช จันทรไพศาล" ที่ระบุว่า เดิมทีเราประเมินแนวรับ SET Index รอบนี้ไว้ที่ 1,350 จุด แต่ปัจจุบันดัชนีได้ปรับตัวลงต่ำกว่าบริเวณดังกล่าวไปแล้ว ปัจจัยหลักเป็นเพราะนักลงทุนมีความกังวลต่อความขัดแย้งในตะวันออกกลางมากขึ้น โดยเรามองปัจจัยดังกล่าวไม่น่ารุนแรงมากขึ้นไปกว่านี้
แต่จะเป็นปัจจัยที่สร้างความรบกวนให้กับตลาดหุ้นไปเรื่อย ๆ ในระยะข้างหน้า ซึ่งหากความขัดแย้งในพื้นที่ดังกล่าวมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน ก็อาจทำให้ SET Index ปรับตัวลงต่ำสุดได้ที่ 1,215 จุด อย่างไรก็ตาม เรามองว่า มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ยากพอสมควร
*** ลุ้นงบ บจ. Q1/67 สวย ดัน SET รีบาวด์
"ณัฐพล คำถาเครือ" ระบุว่า ยังมีความหวังในสัปดาห์หน้าที่จะทำให้ SET Index กลับมารีบาวด์ได้อีกครั้ง หนุนโดยการผ่านร่างงบประมาณปี 67 ที่ใกล้เข้ามาแล้ว ประกอบกับ การประกาศงบการเงินงวดไตรมาส 1/67 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งเราคาดว่าส่วนใหญ่จะออกมาได้ค่อนข้างดี
เช่นเดียวกับ "ณรงค์เดช จันทรไพศาล" ที่มองว่า ปัจจัยระยะสั้น ที่จะหนุนให้ SET Index กลับมารีบาวด์ได้ คือ การประกาศงบการเงินไตรมาส 1/67 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งหากออกมาดีกว่าคาด ก็จะทำให้ Valuation ของตลาดหุ้นไทยดูดีขึ้น ส่งผลให้เกิดแรงซื้อกลับได้เช่นกัน
*** วงการผสานเสียง จังหวะสะสมหุ้นมาถึงแล้ว
นักวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) มองว่า ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ส่งผลให้ SET Index ในปัจจุบันซื้อขาย P/E ปี 67 ที่ 15 เท่า (-1 SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ซึ่งเราประเมินว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะไม่รุนแรงเพิ่มขึ้นไปกว่านี้แล้ว
ดังนั้น จึงมองว่าการปรับตัวลงของ SET Index ในช่วงนี้เป็นโอกาสดีในการซื้อสะสม โดยหุ้นเด่น (Top pick) ของเรายังคงเป็น AMATA, BBL, BCH, CPALL, ERW, PTTEP, TU และ SCB
สอดคล้องกับ "วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย ที่ระบุว่า ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังมอง SET Index ระดับปัจจุบันเหมาะแก่การสะสมลงทุนระยะกลาง - ยาว เน้นที่กลุ่มได้ประโยชน์จาก Digital Wallet อาทิ ค้าปลีกชอบ BJC, CPALL, CPAXT และ HMPRO รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยว แนะนำ AOT กลุ่มธนาคารพาณิชย์ แนะนำ BBL, KBANK และ SCB กลุ่มศูนย์การค้าแนะนำ CPN กลุ่มการเงินแนะนำ MTC, SAWAD, TIDLOR และกลุ่มส่งออก แนะนำ ITC และ TU
เช่นเดียวกับ "อาทิตย์ จันทร์สว่าง" นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ที่มองว่า SET Index ปรับตัวลงมา ถือเป็นโอกาสในการเข้าสะสมหุ้น โดยแนะนำเลือกหุ้นรายตัว (Selective Buy) ชอบ TU, GFPT, ITC, AAI และ SAPPE เพราะได้รับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า และ TTB, KTB, AOT, MINT, DOHOME ,GLOBAL, CPALL และ SCGP ที่คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 จะเติบโตแข็งแกร่ง
ส่วน "เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" กล่าวปิดท้ายว่า ช่วงดัชนีหลุดระดับ 1,350 จุด ถือเป็นจังหวะที่นักลงทุนที่สามารถถือหุ้นระยะยกลาง - ยาว ควรทยอยซื้อหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์, ค้าปลีก และวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงานในระยะถัดไปจะเร่งตัวขึ้นได้จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และงบประมาณรัฐเบิกจ่าย