กูรูชี้ได้จังหวะช้อปหุ้นปันผล แนะดักซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 2 เดือน รับผลตอบแทน 2 เด้ง ทั้งราคาหุ้น-เงินปันผล พร้อมเปิดโผ 18 หุ้นเป้าหมาย ให้ยีลด์ไม่ต่ำกว่า 4% กลุ่มอสังหาฯ - แบงก์ พาเหรดติดโผเพียบ

*** ซื้อก่อนขึ้น XD 2 เดือน รับผลตอบแทน 2 เด้งสูงสุด 8%
    
"อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล" ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ระบุว่า สถิติตั้งแต่ปี 2553 ตลาดหุ้นไทยไตรมาสแรกจะได้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 6.2% เนื่องจากจะมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มหุ้นปันผลดี ส่งผลให้หุ้นกลุ่มนี้จะปรับตัวขึ้นมากกว่าตลาด (Outperform) เสมอ สะท้อนจากดัชนี SETHD ที่มักจะให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index ระดับ 3-4% ซึ่งถือเป็นจังหวะเหมาะสมในการเข้าเก็งกำไรกลุ่มหุ้นปันผล เพื่อคาดหวังผลตอบแทน 2 เด้ง ทั้งราคาหุ้นและเงินปันผล

    
ด้าน "เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เสริมว่า จากการเก็บสถิติช่วงหลายปีหลังพบว่าหากเข้าซื้อหุ้นปันผลช่วง 2 เดือนก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงสุดถึง 8% และมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกระดับ 80% ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมหุ้นกลุ่มดังกล่าว

    
เช่นเดียวกับ "ณัฐชาต เมฆมาสิน" ผู้ช่วยกรรมการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า กลุ่มหุ้นปันผลสูงถือเป็นธีมหลักในการลงทุนช่วงนี้ เพราะเป็นกลุ่มที่ได้เปรียบในแง่ของ Valuation และ Timing และเป็นแหล่งพักเงินยามตลาดหุ้นโดยรวมผันผวนสูง โดยช่วง 4 เดือนแรกของทุกปีเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการลงทุนหุ้นปันผล สะท้อนจากผลงานของดัชนี SETHD ที่ไม่เคยให้ผลตอบแทนติดลบตั้งแต่มีการตั้งดัชนีดังกล่าวในปี 54 

*** เปิดโผ 18 หุ้นปันผลสูง ให้ยีลด์กว่า 9.5%

    
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" รวบรวมหุ้นปันผลสูงแนะนำจากนักวิเคราะห์ โดยคัดเลือกบริษัทที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) มากกว่า 4% ขึ้นไป พบว่ามี 18 บริษัทดังนี้

*** หุ้นอสังหาฯ - แบงก์ ติดโผเพียบ
    
จากตารางหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ติดโผสูงสุดที่ 6 บริษัท และ 4 บริษัท ตามลำดับ เนื่องจากปีที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวปรับตัวลดลง แต่นักวิเคราะห์มองว่ากลุ่มบริษัทดังกล่าวยังมีศักยภาพในการจ่ายปันผลระดับเดิม ส่งผลให้ยีลด์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 

    
ทั้งนี้ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ถูกคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 62 สูงสุด ที่ 6.2-9.5% โดยบทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส คาดจ่ายเงินปันผลระดับ 0.51 บาทต่อหุ้น ขณะที่ บทวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์ คาดจ่ายปันผล 0.53 บาทต่อหุ้น 
    

เช่นเดียวกับ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) ที่นักวิเคราะห์คาดอัตราปันผลตอบแทนระดับ 6-9.5% โดยบทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส คาดจ่ายปันผลงวดปี 62 ที่ 0.16 บาทต่อหุ้น 
    

ด้าน ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) เป็นหุ้นแบก์ที่นักวิเคราะห์คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงสุด 6.3-8.2% บทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดจ่ายปันผลที่ 4.5 บาทต่อหุ้น ขณะที่ บทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดจ่าย 6 บาทต่อหุ้น และ บล.ฟินันเซียไซรัส คาดจ่ายปันผล 5 บาทต่อหุ้น
    

อย่างไรก็ตาม "กิจพณ ไพรไพศาลกิจ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) แนะนำว่า การลงทุนหุ้นปันผลสูงทั้ง 2 กลุ่มข้างต้น ให้เน้นเก็งกำไรระยะสั้นเป็นหลัก เนื่องจาก หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ปีนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่กลุ่มธนาคารยังต้องระมัดระวังเรื่องกำไรอาจชะลอตัวจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง

*** แนะเลือกหุ้นปันผลปีละครั้งก่อน
    

"มงคล พ่วงเภตรา" ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เพิ่มเติมว่า กลยุทธ์การเลือกลงทุนหุ้นปันผลช่วงต้นปี ให้เลือกบริษัทที่จ่ายปันผลปีละ 1 ครั้งก่อน เพราะจะได้ผลตอบแทนมากกว่า บริษัทที่จ่ายปันผลปีละหลายครั้ง
    

 ทั้งนี้ เมื่อสำรวจหุ้นกลุ่มปันผลสูงข้างต้น พบว่ามี 5 บริษัทที่จ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง ดังนี้