โบรกฯ เปิดโผ 11 หุ้น กำไร Q1/65 จ่อโตทั้ง YoY-QoQ พบส่วนใหญ่เป็นหุ้นในดัชนี SET100 ถึง 9 บริษัท โดยมี 3 บริษัท กำไรจ่อโตจากปีก่อนเกิน 100%  คาด PR9 รายงานกำไร 118 ลบ. โต YoY สูงสุด 206%  ส่วน SPRC คาดกำไร 3.8 - 4.9 พันลบ. โต 90 - 144%
 

*** พบ 11 บจ. กำไรโค้งแรกจ่อโต YoY - QoQ
 

"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จาก IAA Consensus ตั้งแต่ 1 เม.ย. - 18 เม.ย.65 พบ 11 บริษัท (ไม่รวมหุ้นธนาคารพาณิชย์) ถูกโบรกเกอร์คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทั้งเทียบปีก่อน (YoY) และ ไตรมาสก่อน (QoQ) ประกอบด้วย
 

*** "PR9" กำไรจ่อโต YoY สูงสุด 206% 
 

11 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในดัชนี SET100 จำนวน 9 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ติดโสูงสุด จำนวน 3 บริษัท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจการแพทย์, เงินทุนและหลักทรัพย์ และ พาณิชย์ ที่ติดโผ จำนวน 2 บริษัท เท่ากัน

บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9) เป็นบริษัทที่ถูกนักวิเคราะห์ มองว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/65 จะเติบโตจากปีก่อนสูงสุด โดยประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 118 ล้านบาท เติบโตขึ้น 206% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุนจากผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเฉพาะทางมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธ์โอไมครอน ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 หมื่นราย/วัน ส่งผลให้ PR9 ได้รับอานิสงส์จากจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ Utilization rate อยู่ที่ราว 80% ประกอบกับ มี  Turnover rate  ในระดับสูงด้วย
 

*** พบอีก 2 บจ. กำไร YoY จ่อโตเกิน 100%
 

ขณะเดียวกัน ยังมีอีก 2 บริษัท ที่ถูกโบรกเกอร์มองว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อน มากกว่า 100% ประกอบด้วย บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ที่ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ราว 3.8 - 4.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 90 - 144% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 106 - 164% จากไตรมาสก่อน

มีปัจจัยหนุน จากคาดการณ์ปริมาณน้ำมันนำเข้าโรงกลั่น เฉลี่ยอยู่ที่ 1.4 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน ประกอบกับ Crude run ที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับ Crude spred ที่ดีขึ้น ประกอบกับ คาดว่า จะมีกำไรสต๊อกน้ำมันราว 5 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 128% จากไตรมาสก่อน เพียงพอชดเชยการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายน้ำมันรั่วกลางทะเล จำนวน 500 ล้านบาท

ด้าน บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 2.8 - 2.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 115 - 119% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 9 - 11% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุนจากรายได้การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 อยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 338% จากปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน หรือประมาณ 16% ของรายได้ทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังประเมินว่า รายได้จากผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิด-19 (Non-Covid) มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น 21% จากปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากจำนวนผู้ป่วยต่างประเทศฟื้นตัว หลังเปิดประเทศเมื่อ พ.ย.64 ส่งผลให้ผู้ป่วยต่างประเทศ สามารถเดินทางเข้ามารับการรักษาโรคเฉพาะทางได้มากขึ้น  
 

*** พบอีก 3 บจ. กำไร YoY จ่อโตเกิน 50%
 

ขณะที่ ยังมีอีก 3 บริษัท ที่ถูกโบรกเกอร์มองว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีก่อน มากกว่า 50% ประกอบด้วย บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 144 ล้านบาท เติบโตขึ้น 92% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 39% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อฟื้นตัว หลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับ ทยอยขึ้นราคาสินค้า 5 - 10% เพื่อครอบคลุมต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

ฟาก บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 9.2 - 9.6 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 54 - 61% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 71 - 80% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุน จากปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับ คาดว่า จะมีกำไรสต็อกน้ำมันอีกราว 2.2 พันล้านบาท 

ส่วน บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 220 ล้านบาท เติบโตขึ้น 57% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุน จากการขยายตัวแทนเชิงรุกกว่า 4 พันราย เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อน ประกอบกับ ธุรกิจขาย - เช่าซื้อ (HP) และ จำนำทะเบียน (C4C) ขยายพอร์ตสินเชื่อได้ตามเป้า
 

*** อีก 5 บจ. กำไร YoY คาดโต 4 - 16%
 

ทั้งนี้ อีก 5 บริษัทที่เหลือ ถูกคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/65 จะเติบโตขึ้นจากปีก่อน ระหว่าง 4 - 16% โดย บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 880 - 909 ล้านบาท เติบโตขึ้น 12 - 16% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 11 - 14% จากไตรมาสก่อน หนุนโดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน ตามสินเชื่อที่ขยายตัว 22% 

ขณะที่ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 1.2 - 1.29 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 4 - 12% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 13 - 21% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุน จากราคาพลังงานทั้งน้ำมัน และ ก๊าซธรรมชาติ ปรับตัวขึ้นสูงตั้งแต่ช่วงต้นปี 

ด้าน บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 982 - 1.01 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 2 - 5% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 32 - 35% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุน จากการกลับเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการขายวัสดุก่อสร้าง และ การเปิดสาขาใหม่อีก 3 แห่ง หนุนให้ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยังสามารถเติบโตได้ราว 6 - 7% จากปีก่อน

ฟาก บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 68 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 39% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุน จากรายได้การบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน ตามยอดจัดเก็บเงินสดที่ปรับตัวขึ้น ประกอบกับ รายได้จากการเร่งรัดหนี้ เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อน หลังมีการเปิดเมือง

ปิดท้ายด้วย บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) ที่ถูกคาดกำไรสุทธิไว้ที่ 430 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 16% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยหนุน จากยอดคำสั่งซื้อ และความต้องการสิรค้ายังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ประกอบกับ เงินบาทยังคงมีทิศทางอ่อนค่า หนุนให้ HANA ยังมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน