นักวิเคราะห์เแนะกลยุทธ์ลุยหุ้นปันผลระหว่างกาล ดักซื้อก่อน 1-2 เดือนก่อน XD รับผลตอบแทน 2 ต่อ ทั้งราคาหุ้นและเงินปันผล พบ 19 หุ้นแนวโน้มแจกยีลด์ปีนี้สูง 3.7-8.6% แถมพบเกินครึ่งราคายังมีอัพไซด์มากกว่า 10%
*** ได้เวลาดักซื้อหุ้นปันผล ลุ้นกำไร 2 เด้ง
"กรภัทร วรเชษฐ์" ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน ด้านกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า สถิติการเข้าซื้อหุ้นที่จ่ายปันก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ประมาณ 2 เดือน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาช่วยผลักดันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ประมาณ 7-8% และให้ขายหลังขึ้น XD ซึ่งจะได้ผลตอบแทนทั้งราคาหุ้นและเงินปันผล
ด้าน "วิจิตร อารยะพิศิษฐ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เสริมว่า สถิติ 5 ปีหลัง หากเข้าซื้อหุ้นก่อนประกาศจ่ายเงินปันผล 3 เดือน มักได้รับผลตอบแทนราคาหุ้นบวกเฉลี่ย 7% โดยแนะนำเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลสูงสม่ำเสมอไม่ต่ำกว่า 3.5-4%
เช่นเดียวกับ "เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. เอเซีย พลัส แนะนำ ซื้อหุ้นก่อนประกาศจ่ายเงินปันผลราว 1 เดือนครึ่ง และขายทำกำไรทันทีในวันที่หุ้นบริษัทดังกล่าวขึ้นเครื่องหมาย XD โดยสถิติย้อนหลัง มักให้ผลตอบแทนราคาหุ้นเป็นบวก โดยเลือกหุ้นที่มีสถิติการจ่ายเงินปันผลระหว่างการสูงสม่ำเสมอ
ขณะที่ "ธีรดา ชาญยิ่งยงค์" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า ปกติสามารถเข้าเก็งกำไรหุ้นปันผลได้ก่อนขึ้น XD ประมาณ 1 เดือน แต่ภาวะตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ยังมีโอกาสปรับตัวลดลง จากความกังวลยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 และ มีอัตราการเสียชีวิตสูง ซึ่งคาดว่าจะทำให้นักลงทุนเริ่มหาหุ้นมารองรับปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว และหุ้นที่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลสูงสม่ำเสมอ มักเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ช่วงภาวะตลาดไม่แน่นอน ดังนั้นนักลงทุนสามารถซื้อหุ้นได้ตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไป ก่อนบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะทยอยแจ้งประกาศงบไตรมาส 2/64 และจ่ายเงินปันผล
*** พบ 19 หุ้นจ่อแจกยีลด์ปันผลปีนี้เฉลี่ย 3.7-8.6%
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" รวบรวมหุ้นแนะนำจากนักวิเคราะห์ ซึ่งมีการจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง พบว่ามีทั้งสิ้น 19 บริษัท ประกอบด้วย
19 หุ้นแจกยีล์ปันผลปี 64 สูง (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
|
ชื่อย่อหุ้น
|
%Div.Yield ปี 64 เฉลี่ย*
|
%Div. Yield ต่ำสุด-สูงสุด*
|
MCS
|
8.6
|
8.3 - 9
|
TVO
|
8.2
|
7.7 - 8.6
|
TCAP
|
7.9
|
5.2 - 9.2
|
LH
|
6.7
|
5.8 - 7
|
SAT
|
6.5
|
5.4 - 7.4
|
DRT
|
6.2
|
5.8 - 6.7
|
KKP
|
6.2
|
4.4 - 8.6
|
QH
|
6.2
|
5.4 - 6.8
|
PTTGC
|
6
|
3.5 - 9
|
ORI
|
5.9
|
4.5 - 6.9
|
RATCH
|
5.9
|
5.6 - 6.4
|
TTW
|
5.8
|
5.2 - 6.9
|
SPALI
|
5.3
|
3.7 - 6.6
|
PTT
|
4.6
|
3.4 - 5.8
|
SCB
|
4.3
|
3 - 6.7
|
EGCO
|
4
|
3.8 - 4.1
|
INTUCH
|
3.9
|
3.4 - 4.1
|
TU
|
3.7
|
3.2 - 4.6
|
ADVANC
|
3.7
|
3.4 - 4.1
|
* คาดการณ์จาก IAA Consensus ณ 30 ก.ค.64
|
ทั้งนี้ข้อมูลจาก IAA Consensus ณ 30 ก.ค.64 พบว่า 19 หุ้นดังกล่าว ถูกคาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ปี 64 เฉลี่ย 3.7 - 8.6% โดยมีถึง 13 บจ.ที่แนวโน้ม Dividend Yield ปีนี้จะมากกว่า 5%
บมจ.เอ็ม.ซี.เอส.สตีล (MCS) ถูกคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปีนี้สูงสุดเฉลี่ย 8.6% โดยโบรกเกอร์ 3 แห่งคาด Dividend Yield ปีนี้ตั้งแต่ 8.3 - 9%
เช่นเดียวกับ บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO) นักวิเคราะห์คาด Dividend Yield ปีนี้ตั้งแต่ 7.7 - 8.6% หรือเฉลี่ย 8.2%
*** พบส่วนใหญ่อัพไซด์เพียบ
ทั้งนี้ "ณรงค์เดช จันทรไพศาล" นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.ไอร่า แนะนำว่า การเข้าเก็งกำไรหุ้นปันผล ช่วงการจ่ายปันผลระหว่างกาล นอกจากควรซื้อก่อนประกาศงบ 1 เดือนแล้ว ต้องพิจารณาพื้นฐานและ Valuation ของราคาด้วย เพราะบางบริษัทแม้จะมีแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลสูง แต่ราคาก็ปรับตัวขึ้นจนเกินมูลค่าเหมาะสมไปแล้ว ซึ่งมีความเสี่ยงถูกขายทำกำไรได้
อย่างไรก็ตามเมื่อสำรวจราคาเหมาะสมจาก IAA Consensus ณ 30 ก.ค.64 พบว่า ส่วนใหญ่ยังมีอัพไซด์สูง ซึ่งเมื่อพิจารณาจากช่วงราคาเหมาะสมต่ำสุด - สูงสุด ที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ เกินครึ่งยังมีอัพไซด์มากกว่า 10% สูงสุด 87.13% ดังนี้
ราคาเหมาะสม 19 หุ้นแจกยีล์ปันผลปี 64 สูง (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
|
ชื่อย่อหุ้น
|
ราคาปิด 30 ก.ค. (บ.)
|
ช่วงราคาเหมาะสม (บ.)*
|
ช่วง %อัพไซด์
|
EGCO
|
171
|
289 - 320
|
69.01 – 87.13
|
PTT
|
34.75
|
45 - 52
|
29.50 – 49.64
|
MCS
|
14.4
|
18.5 – 21
|
28.47 – 45.83
|
SCB
|
93.5
|
110 – 136
|
17.65 – 45.45
|
KKP
|
51
|
59 -77
|
15.69 – 50.98
|
ADVANC
|
179.5
|
205 – 227
|
14.21 – 26.46
|
RATCH
|
42.5
|
48 - 76
|
12.94 – 78.82
|
TTW
|
11.6
|
13 – 15.3
|
12.07 – 31.9
|
ORI
|
8.65
|
9.55 – 13
|
10.40 – 50.29
|
SPALI
|
21.1
|
23.1 - 27
|
9.48 – 27.96
|
QH
|
2.2
|
2.4 – 2.6
|
9.09 – 18.18
|
LH
|
7.8
|
8.5 – 10.5
|
8.97 – 34.62
|
TVO
|
31.5
|
34 – 38.75
|
7.94 – 23.02
|
TCAP
|
32.5
|
33 – 37
|
1.54 – 13.85
|
SAT
|
20.7
|
21 – 30
|
1.45 – 44.93
|
PTTGC
|
56.75
|
56.75 – 86
|
0 – 51.54
|
INTUCH
|
64.5
|
63 – 74
|
(-2.33) – 14.73
|
DRT
|
7.2
|
7 – 8.1
|
(-2.78) – 12.5
|
TU
|
22.2
|
21 – 25
|
(-5.41) – 12.61
|
* คาดการณ์จาก IAA Consensus ณ 30 ก.ค.64
|
บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) มีอัพไซด์สูงสุดระดับ 69.01 - 87.13% โดยนักวิเคราะห์ให้ราคาเหมาะสมตั้งแต่ 289 - 320 บาท แต่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่เพียง 171 บาท ซึ่งประเมินว่า Dividend Yield ปีนี้จะอยู่ที่เฉลี่ย 4% หรือตั้งแต่ 3.8-4.1%
ส่วน บมจ.เอ็ม.ซี.เอส.สตีล (MCS) ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะมี Dividend Yield ปีนี้สูงสุด ราคาหุ้นปัจจุบันมีอัพไซด์ 28.47 - 45.83% โดยนักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมที่ 18.5 - 21 บาท แต่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 14.4 บาท