efinancethai

ประเด็นร้อน

ลุ้นหุ้นไทย Q2 ไปไกลถึง 1,480 จุด รับรัฐฯเบิกจ่ายงบ-Fed หั่นดอกเบี้ย

ลุ้นหุ้นไทย Q2 ไปไกลถึง 1,480 จุด รับรัฐฯเบิกจ่ายงบ-Fed หั่นดอกเบี้ย

โบรกฯผสานเสียงหุ้นไทย Q2/67 ไซด์เวย์ ให้กรอบ 1,350 - 1,480 จุด ชี้งบปี 67 เบิกจ่าย - ลุ้น Fed หั่นดอกเบี้ยรอบแรกของปีช่วยดัน SET พุ่ง ส่วนใหญ่ให้กลยุทธ์เก็บหุ้น Domestic play ได้อานิสงส์งบปี 67 เบิกจ่าย - ดอกเบี้ยลด !

 

*** กูรูผสานเสียงหุ้น Q2 ไซด์เวย์ ให้กรอบ 1,350 - 1,480 จุด

"พิริยพล คงวาณิช" นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง ประเมินการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ไตรมาส 2/67 จะเป็นแบบ sideway โดยคาดการณ์กรอบดัชนีที่ 1,350 - 1,450 จุด 


เช่นเดียวกับ "ณัฐพล คำถาเครือ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่มองว่า การเคลื่อนไหวของ SET Index ช่วงไตรมาส 2/67 น่าจะเป็นไปแบบ sideway โดยประเมินกรอบดัชนีไว้ที่ 1,350 - 1,420 จุด


สอดคล้องกับ "วิจิตร อารยะพิศิษฐ" นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ ที่มองเหมือนกันว่า SET Index ไตรมาส 2/67 มีแนวโน้มเคลื่อนไหว sideway ในกรอบ 1,350 - 1,420 จุด 


ส่วน "เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเชีย พลัส ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเคลื่อนไหวของ SET Index ในช่วงไตรมาส 2/67 มีแนวโน้มดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อน หลังมองว่ามีหลายปัจจัยบวกที่จะค่อย ๆ หนุนดัชนีได้ โดยคาดกรอบ SET Index จะอยู่ที่ 1,350 - 1,480 จุด

 

*** ชี้งบปี 67 ผ่าน ลุ้น Fed ลดดอกเบี้ยหนุนหุ้นไทย

"ณัฐพล คำถาเครือ" กลับมากล่าวต่อว่า สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้น ทั้งปัจจัยในประเทศ และต่างประเทศช่วงไตรมาส 2/67 มีแนวโน้มเป็นโทนบวกมากขึ้น โดยในประเทศจะมีปัจจัยบวกจากการเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดินปี 67, การปรับขึ้นเงินเดือนของกลุ่มข้าราชการ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนทางอ้อมต่อหุ้น Domestic ประกอบกับ กลุ่มโรงไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะเห็นความคืบหน้า PDP ฉบับใหม่ชัดขึ้น


ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศ มีแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงในเดือน มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และจะสนับสนุนให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่ทขึ้น โดยเฉพาะในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย 


ขณะที่ "วิจิตร อารยะพิศิษฐ" ให้ความเห็นต่อว่า ปัจจัยการลงทุนที่ต้องติดตามช่วงไตรมาส 2/67 ประกอบด้วย ปัจจัยในประเทศ เช่นการลงทุนภาครัฐ และการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลที่คาดเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังงบประมาณแผ่นดินปี 67 จะถึงคิวเบิกจ่าย ประกอบกับ การท่องเที่ยวที่ปกติเป็นโลว์ซีซั่น แต่ปีนี้มีแนวโน้มดีกว่าในรอบหลาย ๆ ปี จากมาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว ทำให้มองว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/67 จะเป็นภาพของการค่อย ๆ ฟื้นตัว


ด้าน ปัจจัยภายนอก ยังต้องติดตามท่าทีการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และยุโรป ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่อาจจะได้รับอานิสงส์ด้วย 


เช่นเดียวกับ "เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" ที่มองว่า ปัจจัยที่จะหนุนการเคลื่อนไหวของ SET Index ไตรมาส 2/66 คือ เรื่องของการเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดินที่จะเกิดขึ้นช่วง เม.ย. - มิ.ย.นี้ หนุนให้การบริโภคในประเทศมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน ประกอบกับ คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯมีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ยลงในช่วงเดือน มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ทำให้เม็ดเงินลงทุนมีแนวโน้มไหลกลับเข้ามายังสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น  


ฟาก "ณัฐชาต เมฆมาสิน" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่าง ๆ ช่วงไตรมาส 2/67 จะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก คือ ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกถดถอย และท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ว่าจะช้าหรือเร็วขนาดไหน หาก Fed ลดดอกเบี้ยเร็วก่อนที่เศรษฐกิจโลกจะมีสัญญาณเสี่ยงถดถอย มีโอกาสที่ SET Index จะปรับตัวขึ้นได้

 

*** ส่วนใหญ่เชียร์สะสมหุ้น "Domestic"

"เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนในช่วงไตรมาส 2/67 แนะนำสะสมหุ้น Domestic pay ประกอบด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง, ค้าปลีก และรับเหมาก่อสร้าง ที่จะได้รับอานิสงส์จากการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล ชอบ TASCO, HMPRO และ CK ส่วนอีก 1 กลุ่มชอบ กลุ่ม Non-Bank ที่กำลังจะได้รับอานิสงส์จากการลดดอกเบี้ยนโยบาย ชอบ MTC 


เช่นเดียวกับ "วิจิตร อารยะพิศิษฐ" ที่แนะนำกลยุทธ์ลงทุนไตรมาส 2/67 โดยเลือกหุ้น Domestic pay ที่ราคาหุ้นยัง Laggard แต่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ในระยะถัดไป อาทิ หุ้นในกลุ่มค้าปลีก, ท่องเที่ยว, เครื่องดื่ม, บริการรับเหมาก่อสร้าง และนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น 


ส่วน "ณัฐพล คำถาเครือ" ระบุว่า กลยุทธ์การลงทุนในช่วงไตรมาส 2/67 แนะนำนักลงทุนทยอยสะสมหุ้น Domestic pay อาทิ กลุ่ม ค้าปลีก, เครื่องดื่ม และโรงไฟฟ้า ที่จะได้รับอานิสงส์จากการเข้าสู่ฤดูร้อน หนุนให้ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นด้วย

 

*** "บัวหลวง" แนะ Selective ผ่าน 5 ธีม

ขณะที่ "พิริยพล คงวาณิช" แนะนำกลยุทธ์การลงทุนแบบ Selective play (เลือกรายตัว) ผ่าน 5 ธีมการลงทุนที่สำคัญ ประกอบด้วยดังนี้


1.Global play : เศรษฐกิจโลกแข็งแรงกว่าคาด/hedge สงครามโดยชอบกลุ่มพลังงานต้นน้ำได้แก่ TOP และ PTTEP หรือเก็งกำไรกลุ่มปิโตรเคมีสาย HDPE เด่นสุด คือ PTTGC


2.กลุ่ม Domestic pay ได้ประโยชน์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล แนะนำ STEC, 3.กลุ่มรับอานิสงส์ดอกเบี้ยลด แนะนำ MTC และ TIDLOR, 4.กลุ่มที่คาดผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่ง และกำไรผ่านจุดต่ำสุด แนะนำ ITC, BEM, MINT, BH, SAFE และ YGG และ 5.กลุ่มรับอานิสงส์ฤดูร้อน แนะนำ CPALL, ICHI และ GULF 

แบบสอบถามความพึงพอใจ






ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Refresh




LATEST NEWS

ข่าวหุ้นล่าสุด

Refresh

ดูข่าวทั้งหมด