หุ้นไอพีโอต้นปีกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง 8 ใน 10 เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่ง เฉลี่ย 46.14% สูงสุด 135.56% วงการมอง ตั้งราคาขายไม่แพง - นักลงทุนหาทางเลือกใหม่เข้าเก็งกำไรช่วง SET ซึม แต่มองยุคทองยังไม่กลับมา เหตุวอลุ่มเทรด SET ยังน้อย แถมส่วนใหญ่แรงแค่ช่วงแรก ก่อนปรับตัวลง แนะพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน - Valuation อย่างถี่ถ้วนก่อนเข้าลงทุน !
*** ไอพีโอต้นปีซิ่ง ทำราคาเปิดบวกเฉลี่ย 46%
ผ่านไปกว่า 4 เดือน มีบริษัทน้องใหม่เข้าซื้อขายทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) แล้ว 10 บริษัท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอกว่า 4 หมื่นล้านบาท มูลค่าการเสนอขายราว 8.5 พันล้านบาท และมูลค่าระดมทุนกว่า 3 พันล้านบาท
โดย 10 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่สามารถทำราคาเปิดเหนือราคาจองซื้อไอพีโอ ถึง 8 บริษัท คิดเป็นค่าเฉลี่ยถึง 46.14% โดยราคาเปิดวันแรกบวกสูงสุดถึง 135.56% อีกทั้ง ยังมีถึง 8 บริษัท ที่ราคาหุ้นทำราคาสูงสุด (All Time High) ภายใน 1 - 2 วันแรกที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนเมื่อเทียบกับราคาไอพีโอสูงถึง 90.94% ประกอบด้วย
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นไอพีโอปี 67
|
ชื่อย่อหุ้น
|
ราคาไอพีโอ (บ.)
|
ราคาเปิดวันแรก (บ.)
|
%chg
|
ราคาสูงสุด (บ.)
|
%chg
|
ราคาปิดวันแรก (บ.)
|
%chg
|
ราคาล่าสุด (บ.)
|
%chg
|
SET
|
ADVICE
|
3.24
|
5.65
|
74.38
|
6.2
|
91.36
|
5.25
|
62.04
|
4.3
|
32.71
|
NL
|
2.6
|
3.82
|
46.92
|
4.08
|
56.92
|
3.1
|
19.23
|
2.48
|
-4.61
|
BKGI
|
1.63
|
2.18
|
33.74
|
5.65
|
246.63
|
4.4
|
169.94
|
2.74
|
68.09
|
CREDIT
|
29
|
27.50
|
-5.17
|
30.25
|
4.31
|
27.5
|
-5.17
|
27.25
|
-6.034
|
mai
|
BPS
|
0.9
|
2.12
|
135.56
|
2.2
|
144.44
|
1.23
|
36.67
|
0.98
|
8.88
|
QTCG
|
1.2
|
2.18
|
81.67
|
2.28
|
90.00
|
0.95
|
-20.83
|
0.95
|
-20.83
|
APO
|
0.99
|
1.74
|
75.76
|
2.86
|
188.89
|
2.12
|
114.14
|
1.33
|
34.34
|
PANEL
|
3.68
|
4.3
|
16.85
|
4.36
|
18.48
|
3.5
|
-4.89
|
2.08
|
-43.47
|
NAT
|
5.4
|
5.95
|
10.19
|
9.5
|
75.93
|
6.9
|
27.78
|
5.3
|
-1.85
|
EURO
|
10.6
|
9.7
|
-8.49
|
9.8
|
-7.55
|
8.6
|
-18.87
|
6.5
|
-38.67
|
*** โบรกฯชี้ตั้งราคาขายไม่แพง ทำราคาพุ่ง
"วิจิตร อารยะพิศิษฐ" นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า การที่หุ้นไอพีโอปีนี้กลับมาบวกแรงมากขึ้น มองว่า เกิดจากการตั้งราคาขายที่ไม่ได้แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา จึงทำให้หุ้นบวกได้แม้ภาวะตลาดหุ้นจะไม่ได้ดีมากนัก ต่างจากอดีตที่ตลาดหุ้นไม่ดี และยังตั้งราคาขายแพงมากจนเกินไป จึงทำให้มีแต่แรงขายทิ้งออกมาค่อนข้างหนัก
ด้าน "เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า การที่หุ้นไอพีโอปีนี้ ส่วนใหญ่กลับมาบวกกันค่อนข้างแรง สวนทางกับภาวะตลาดหุ้นที่ยังไม่ค่อยดีนัก อาจต้องไปดูการตั้งราคาขายของบริษัทเหล่านั้นว่ามีความสมเหตุสมผลหรือไม่ โดยคาดว่าส่วนใหญ่น่าจะขายกันไม่แพง จึงทำให้ราคาหุ้นเมื่อเข้ามาซื้อขายปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี
ขณะที่ "สุนทร ทองทิพย์" ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นไอพีโอปีนี้ ส่วนใหญ่กลับมาปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรง มองว่า ยังเป็นประเด็นของการเก็งกำไรเป็นหลัก ส่วนถ้าหุ้นไอพีโอตัวไหนมีการเสนอขายที่ค่อนข้างแพง ราคาหุ้นก็จะปรับตัวลงอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน
ส่วน "ณรงค์เดช จันทรไพศาล" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า หุ้นไอพีโอปีนี้ ที่เห็นหลาย ๆ บริษัทบวกแรง ๆ ก็ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะบวกแรงแบบนั้น ยังเป็นบางตัวอยู่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานของแต่ละบริษัท และความคาดหวังต่อผลการดำเนินงานในอนาคตว่ามีมากน้อยแค่ไหน รวมถึงการตั้งราคาขายที่สะท้อนผ่าน P/E ที่ต้องไปดูว่าแต่ละบริษัท มีความถูกแพงต่างกันอย่างไร ?
*** "เอฟเอ"เสริม นลท.แห่เก็งกำไร รับทางเลือกใหม่
แหล่งข่าวในวงการที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม ที่ทำให้ราคาหุ้นไอพีโอช่วงนี้ ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นอย่างหวือหวา มีด้วยกัน 2 เหตุผล ดังนี้
1.นักลงทุนหันมาเก็งกำไรหุ้นไอพีโอระยะสั้นมากขึ้น เนื่องจากหุ้นเดิม ๆ ที่อยู่ในกระดาน ณ ปัจจุบัน เริ่มมีความน่าสนใจลดลง ดังนั้น เมื่อมีอะไรใหม่ ๆ เข้ามา ก็จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักลงทุนในตลาดหุ้นจะหันมาให้ความสนใจในช่วงระยะหนึ่ง
2.การตั้งราคาขายที่สมเหตุสมผลมากขึ้น โดยราคาเสนอขายมีส่วนลดที่น่าสนใจกว่าในอดีต อีกทั้งการกระจายหุ้นให้กับนักลงทุนส่วนต่าง ๆ ยังมีความละเอียด และเหมาะสมมากขึ้นกว่าในอดีต อีกด้วย
สอดคล้องกับ แหล่งข่าวในวงการที่ปรึกษาทางการเงินอีกแหล่ง ที่ระบุว่า แม้ราคาหุ้นไอพีโอที่เปิดซื้อขาย รวมทั้งราคาซื้อขายวันแรกส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้นแรงก็ตาม แต่ก็ด้วยเกิดจากการเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้นของนักลงทุนในตลาดหุ้น ที่เกิดความเบื่อหน่ายหุ้นเดิม ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้น พอมีหุ้นใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดหุ้นจึงมีผลต่อจิตวิทยาบ้าง
อย่างไรก็ตาม หุ้นไอพีโอที่ปรับตัวขึ้นแรงในระยะหลัง เป็นการปรับตัวขึ้นแค่ช่วงสั้น ๆ ราว 2 - 3 วัน ที่เริ่มเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯเท่านั้น หลังจากนั้นส่วนใหญ่ราคาหุ้นก็จะค่อย ๆ ปรับตัวลง ซึ่งหากยังเป็นไปลักษณะเช่นนี้ต่อไป ก็อาจจะทำให้นักลงทุนรายย่อยอื่น ๆ ขาดความเชื่อมั่นต่อหุ้นไอพีโอตัวต่อ ๆ ไปที่จะเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ฯได้เช่นกัน
*** วงการมองยุคทองยังไม่กลับมา แนะดันกลุ่มใหม่เข้าตลาดมากขึ้น
แหล่งข่าวในวงการที่ปรึกษาทางการเงิน ระบุว่า แม้หุ้นไอพีโอระยะหลัง ส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้นอย่างหวือหวาในช่วงแรกๆ แต่ยังมองว่า ยุคทองของหุ้นไอพีโอยังไม่กลับมา เนื่องด้วยหุ้นส่วนใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นยังเป็นเพียงหุ้นขนาดเล็ก ขณะที่ปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยเฉลี่ย/วัน อยู่ที่ราว 3 - 4 หมื่นล้านบาท เท่านั้น
ซึ่งถ้าพูดว่ายุคทองไอพีโอกลับมาแล้ว ปริมาณการซื้อขายตลาดหุ้นไทยเฉลี่ย/วัน อย่างน้อยควรอยู่ที่ระดับ 7 - 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนช่วยให้หุ้นขนาดใหญ่ที่ไอพีโอเข้ามาปรับตัวขึ้นได้อย่างร้อนแรงด้วย แต่วันนี้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น ยังเป็นเเค่ช่วงของการเก็งกำไรหุ้นไอพีโอขนาดเล็กเท่านั้น และจากนั้นราคาหุ้นก็จะค่อย ๆ ย่อตัวลง
ขณะที่ "วิจิตร อารยะพิศิษฐ" ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า หากตลาดหุ้นไทยยังไม่มีหุ้นอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่ล้อไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคตเข้ามาเทรดมากขึ้น แพทเทิร์นของหุ้นไอพีโอก็จะวนลูบเดิม ๆ คือ เข้ามาเปิดบวกแบบกระโดด จากนั้นราคาหุ้นก็จะค่อย ๆ ย่อลงมา และถ้าอยู่ในช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นไม่ดี ก็อาจจะลงมาต่ำกว่าราคาจองซื้อได้ จึงทำให้ส่วนตัวยังไม่ได้มอง"บวก"มากนักสำหรับหุ้นไอพีโอในช่วงนี้
*** เปิดทริคอยากลงทุนหุ้นไอพีโอทำอย่างไร ?
"ณรงค์เดช จันทรไพศาล" ระบุว่า สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าลงทุนในหุ้นไอพีโอช่วงนี้ ยังคงแนะนำให้พิจารณาปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเป็นหลัก ควบคู่กับการวิเคราะห์ราคาขายด้วยว่ามีความถูกหรือแพงแค่ไหน ซึ่งนักลงทุนต้องหมั่นทำการบ้านเพื่อหาจุดดุลยภาพของราคาหุ้นแต่ละบริษัทที่สนใจเข้าไปลงทุนให้ดี เนื่องด้วยช่วงแรกที่หุ้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนใหญ่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท แต่เมื่อผ่านไปสักระยะ ราคาหุ้นถึงจะกลับเข้าสู่พื้นฐานที่แท้จริงของบริษัท
ขณะที่ "เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" กล่าวว่า คำแนะนำการลงทุนหุ้นไอพีโอช่วงนี้ มองว่า ไม่สามารถใช้กลยุทธ์เดียวกันเหมารวมได้ทั้งหมด แนะนำนักลงทุนพิจารณาหุ้นเป็นรายตัว โดยต้องเข้าไปศึกษษข้อมูลที่สำคัญ ประกอบด้วย ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในอนาคต รวมทั้ง Valuation ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ว่ายังสมเหตุสมผลอยู่หรือไม่
ด้าน "วิจิตร อารยะพิศิษฐ" เผยว่า กลยุทธ์การลงทุนหุ้นไอพีโอ แนะนำพิจารณาภาพรวมของธุรกิจ และดูว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตต่อในอนาคตหรือไม่ ประกอบกับ ประเมิน Valuation เมื่อเทียบกับหุ้นในลักษณะเดียวกันว่าแพงกว่ากันหรือไม่อย่างไร และดูแผนการใช้เงินระดมทุนของบริษัท พิจาราดูว่าจะสามารถสร้างการเติบโตในอนาคตได้หรือไม่ ?
ส่วน "สุนทร ทองทิพย์" กล่าวปิดท้ายว่า กลยุทธ์การลงทุนหุ้นไอพีโอช่วงนี้ ยังคงแนะนำนักลงทุนพิจารณาเรื่อง Valuation ที่ไม่แพงเป็นหลัก โดยต้องเทียบกับ SET Index ที่ซื้อขายบน P/E ระดับ 14 - 15 เท่า