5 โบรกฯมอง SET เดือน มี.ค. ยังซึมออกข้าง หลังเสี่ยงถูกหั่นเป้าดัชนี กำไร บจ. หลังงบ Q4/65 ต่ำคาด แต่ยังมีลุ้นยุบสภาดัน SET กระเตื้อง มองดัชนีเดือนนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,600 - 1,690 จุด พร้อมชี้เป้า 26 หุ้นเด่นเน้นธีมกำไร Q1/66 แจ่ม ยก AP - CK - MAKRO แจ่มสุด ส่วน BEYOND เหลืออัพไซด์สูงสุดถึง 53.85%
*** ลุ้นยุบสภาฯ ดัน SET เดือนนี้กระเตื้อง
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจกลยุทธ์การลงทุนเดือน มี.ค.66 จากนักวิเคราะห์ 5 โบรกเกอร์ พบส่วนใหญ่มองว่า ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) เดือน มี.ค. ยังอยู่ในทิศทางซึมออกข้าง หลังผ่านช่วงประกาศงบไตรมาส 4/65 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ทำผลงานได้ต่ำกว่าคาด เสี่ยงต่อการปรับประมาณการกรอบดัชนีปี 66 และกำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS) ลง
อย่างไรก็ตาม อาจมีปัจัยหนุนที่ช่วยกระตุ้นให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น หากมีการประกาศยุบสภาเกิดขึ้นในเดือน มี.ค.นี้ ตามการส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้ โดยนักวิเคราะห์ 5 ราย ประเมิน SET Index เดือน มี.ค. ไว้ดังนี้
บล.
|
ดัชนี
|
ดาโอ
|
1,600 - 1,690
|
ทรีนีตี้
|
1,600 - 1,690
|
เอเชีย พลัส
|
1,600 - 1,670
|
ฟินันเซียฯ
|
1,600 - 1,670
|
ไอร่า
|
1,610 - 1,660
|
"ณัฐชาต เมฆมาสิน" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ ประเมิม SET Index เดือน มี.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,600 - 1,690 จุด โดยยังต้องติดตามการอ่อนค่าของเงินบาทต่อ หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ม.ค.66 ขาดดุลที่ระดับ 2 พันล้านเหรียญฯ แย่กว่าตลาดคาดการณ์ แม้ว่าดุลบริการจะเกินดุลได้จากรายรับภาคท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่สามารถชดเชยดุลการค้าที่กลับมาขาดดุลอีกครั้ง
ถัดมา ยังมีปัจจัยพัฒนาการด้านการเมืองของไทย ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อประเด็นการแบ่งเขตเลือกตั้งในวันที่ 3 มี.ค.นี้ และการประกาศยุบสภาของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงระหว่างเดือน
ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 29 มี.ค. ประเมินว่า ณ ขณะนี้ตลาดยังไม่ได้รับรู้ต่อการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าวมากนัก ดังนั้น หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ตัดสินใจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ อาจเป็นปัจจัยเชิงลบต่อตลาดหุ้นผ่านปรากฏการณ์ PE Contraction
ด้าน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมิน SET Index เดือน มี.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,600 - 1,690 จุด โดยเดือนนี้ เป็นเดือนของความคาดหวังในการยุบสภาฯ ทำให้ดัชนีฯมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ หลังก่อนหน้านี้ปรับตัวลงเพราะผิดหวังต่อการายงานกำไรบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/65 ที่ต่ำกว่าคาดมาก
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยยังรับรู้เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)ไประดับหนึ่งแล้ว แต่อาจจะมีความกังวลเข้ามาเป็นระยะ ๆ อย่างไรก็ตาม ยังต้องคอยประเมินสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครน กับ รัสเซีย เป็นระยะ ๆ หากดีขึ้นดัชนีฯ จะบวกได้แรง
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส ประเมิม SET Index เดือน มี.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,600 - 1,670 จุด โดยมองว่าเดือน มี.ค. ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญกับปัจจัยกดดัน อาทิ การเติบโตของ GDP ไตรมาส 4/65 ที่ช้ากว่าคาด ขยายตัวเพียง 1.4% ถือว่าน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง อินโดนนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ที่ขยายตัว 5.3% และ 7.6% ตามลำดับ
อีกทั้ง ยังมีการประกาศงบการเงินบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/65 ต่ำกว่าคาด นำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไรปี 66 ลงต่อเนื่องในช่วงเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า นักลงทุนต่างประเทศ (Fund Flow) มีโอกาสชะลอการไหลออก หลังเดือนก่อนขายสุทธิหุ้นไทย 4.3 หมื่นล้านบาท หากมีประเด็นบวกเข้ามาเสริม เช่น ความชัดเจนในการยุบสภา หรือ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือ เลื่อนกำหนดเวลาขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 29 มี.ค.นี้ออกไป
ด้าน "ณรงค์เดช จันทรไพศาล" ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า เสริมว่า SET Index เดือนมี.ค.นี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,610 - 1,660 จุด โดยแนะนำให้นักลงทุน การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ ของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา และในระยะถัดไป ตลาดยังคงให้น้ำหนักต่อประเด็นดังกล่าวต่อ
โดยเฉพาะการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ในรอบที่จะถึงนี้ ถ้าปรับขึ้นไม่ถึงระดับ 0.5% จะเป็น Sentiment เชิงบวก ต่อ SET Index ได้เช่นกัน อีกทั้ง ยังมีการบุบสภา ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในเดือนนี้ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริง จะช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนเพิ่มขึ้น
*** ชี้หุ้นปรับฐาน โอกาสซื้อลงทุนระยะยาว
ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมิน SET Index เดือน มี.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,600 - 1,670 จุด โดยช่วงที่ผ่านมา สินทรัพย์เสี่ยงได้รับแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ประกอบกับ จุดสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ
ปัจจัยดังกล่าว ทำให้กระแสเงินต่างชาติไหลออกในระยะสั้น ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนในช่วงไตรมาส 4/65 ที่ต่ำกว่าคาด ก่อให้เกิด Downside ต่อประมาณการ EPS ปี 66 และ SET Target ปัจจุบันที่ 1,750 อย่างไรก็ตาม มองจังหวะปรับฐานของดัชนี เป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นเมื่ออ่อนตัว สำหรับภาพการลงทุนระยะยาว
*** เปิดโผ 26 หุ้นเด่น เดือน มี.ค.เน้นธีมกำไร Q1/66 แกร่ง
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณากลยุทธ์การลงทุนเดือน มี.ค.66 ของโบรกเกอร์ทั้ง 5 แห่ง จะพบว่า มีกลยุทธ์หลัก คือ แนะนำหุ้นที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 มีแนวโน้มเติบโต หรือฟื้นตัวโดดเด่น กับการเลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ในการยุบสภา และมีการเลือกตั้ง โดยมีหุ้นแนะนำทั้งหมด 26 บริษัท ซึ่งมีอัพไซด์ 10% ขึ้นไป ประกอบด้วย
5 โบรกฯ ชี้เป้า 26 หุ้นเด่นเดือน มี.ค.
|
บล.
|
ชื่อย่อหุ้น
|
เหตุผล
|
ราคาเหมาะสม (บ.)
|
%อัพไซด์*
|
ฟินันเซียฯ
|
BEYOND
|
Valuation ไม่แพง
|
24
|
53.85
|
AAV
|
ท่องเที่ยวฟื้น
|
3.7
|
30.28
|
M
|
กำไร Q1/66 แกร่ง
|
66
|
20.55
|
ASW
|
หุ้นปันผลสูง
|
9.6
|
13.61
|
NSL
|
กำไรปี 66 แกร่ง
|
26
|
13.54
|
เอเชีย พลัส
|
IVL
|
กำไร Q1/66 แกร่ง
|
52
|
41.50
|
JMT
|
กำไร Q1/66 แกร่ง
|
65
|
37.57
|
BLA
|
กำไร Q1/66 แกร่ง
|
42
|
32.28
|
BGRIM
|
กำไร Q1/66 แกร่ง
|
48
|
24.68
|
AP
|
อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น
|
15
|
20.97
|
CRC
|
อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น
|
55
|
20.88
|
CBG
|
อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น
|
111
|
10.45
|
ทรีนีตี้
|
SCB
|
ดอกเบี้ยขาขึ้น
|
145
|
39.42
|
SPALI
|
อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น
|
27.8
|
23.56
|
KBANK
|
ดอกเบี้ยขาขึ้น
|
167
|
21.45
|
MINT
|
ท่องเที่ยวฟื้น
|
40.5
|
20.00
|
AP
|
อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น
|
14.4
|
16.13
|
ดาโอ
|
GUNKUL
|
รอผลประมูลโรงไฟฟ้าหนุน
|
5.7
|
37.02
|
PRM
|
กำไรปี 66 แกร่ง
|
10
|
34.23
|
PTTEP
|
ปริมาณขายน้ำมันสูงขึ้น
|
200
|
31.58
|
SNNP
|
กำไร Q1/66 แกร่ง
|
30
|
26.05
|
CK
|
อานิสงส์เลือกตั้ง
|
26
|
23.81
|
MAKRO
|
กำไร Q1/66 แกร่ง
|
50
|
23.46
|
CPN
|
Valuation ไม่แพง
|
80
|
14.29
|
WHA
|
กำไร Q1/66 แกร่ง
|
4.5
|
13.64
|
ไอร่า
|
CK
|
เก็งกำไรยุบสภา
|
25
|
19.05
|
STEC
|
เก็งกำไรยุบสภา
|
15.3
|
13.33
|
CPALL
|
อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น
|
67.5
|
10.55
|
MAKRO
|
กำไร Q1/66 แกร่ง
|
44
|
10.25
|
*อัพไซด์เทียบราคาปิดภาคเช้า 1 มี.ค.66
|
*** ส่วนใหญ่แนะหุ้น SET100 หุ้นอสังหาฯ - อาหารเพียบ
26 บริษัทดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นหุ้นในดัชนี SET100 จำนวน 19 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ อาหารและเครื่องดื่ม ติดโผมากสุด จำนวน 5 บริษัท เท่ากัน รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคที่ติดโผจำนวน 4 บริษัท
*** โบรกฯยก AP - CK - MAKRO แจ่มสุด
โดย บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP, บมจ.ช.การช่าง (CK) และ บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) เป็นหุ้นที่มีนักวิเคราะห์แนะนำตรงกันมากที่สุดในเดือน มี.ค.นี้ จำนวน 2 โบรกเกอร์เท่ากัน
*** พบ BEYOND เหลืออัพไซด์สูงสุดถึง 53.85%
บมจ. เบาด์ แอนด์ บียอนด์ (BEYOND) เป็นบริษัทที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์สูงสุด 53.85% รองลงมา คือ บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 41.50%
นอกจากนี้ ยังมีอีก 7 บริษัท ที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์มากกว่า 30% ประกอบด้วย บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) มีอัพไซด์ 39.42%, บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) มีอัพไซด์ 37.57%, บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) มีอัพไซด์ 37.02%
ขณะที่ บมจ.พริมา มารีน (PRM) มีอัพไซด์ 34.23%, บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) มีอัพไซด์ 32.28%, บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) มีอัพไซด์ 31.58% และ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) มีอัพไซด์ 30.28%